ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาหลักสี่ และเป็นตัวแทนของโจทก์ในการจัดเก็บหนี้สินจากลูกหนี้ของโจทก์ที่ได้กู้ยืมเงินไปจากโจทก์รวม 7 ราย เพื่อนำมาเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์ และยังเป็นผู้ดูแลบัญชีเงินฝากของโจทก์แทนโจทก์ด้วย เมื่อประมาณต้นปี 2527 ถึงต้นปี 2530 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด หลายกรรมหลายวาระ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ได้รับมอบหมายจากโจทก์ให้มีหน้าที่ดังกล่าว ได้เบียดบังเอาเงินในบัญชีของโจทก์หรือ เงินที่เก็บมาจากลูกหนี้ของโจทก์ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยจำนวน 445,000 บาท (สี่แสนสี่หมื่นห้าพันบาทถ้วน) ไปเป็นของจำเลยโดยทุจริต ไม่ส่งมอบให้โจทก์ตามหน้าที่ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ได้ทราบความจริงเมื่อวันที่ 30 เมษายน2530 จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับจำเลยในวันดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353 และ 354

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีคงมีปัญหาขึ้นสู่ศาลฎีกาเพียงข้อเดียวว่า คดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ หรือไม่ เห็นว่าการที่คำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่ได้ระบุว่า จำเลยได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนอันเป็นองค์ประกอบแห่งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 โดยโจทก์บรรยายฟ้องมาเพียงว่า จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาหลักสี่ และเป็นตัวแทนของโจทก์ในการจัดเก็บหนี้สินจากลูกหนี้ของโจทก์เพื่อนำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ และนอกจากนี้จำเลยยังเป็นผู้ดูแลเงินฝากของโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนที่ดีกลับปฏิบัติหน้าที่โดยเจตนาทุจริต หวังประโยชน์ของตนเป็นใหญ่จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของโจทก์นั้น คำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวไม่ปรากฏชัดแจ้งว่าการกระทำของจำเลยที่เป็นตัวแทนของโจทก์ตามฟ้อง เป็นการกระทำอันเกี่ยวกับการที่จำเลยเป็นพนักงานธนาคารซึ่งเป็นอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน หรือเป็นการที่โจทก์มอบให้จำเลยกระทำเป็นตัวแทนของโจทก์เป็นการส่วนตัว คำบรรยายฟ้องของโจทก์จึงไม่มีข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยกระทำผิดในฐานที่เป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนตามมาตรา 354 แม้ในคำขอท้ายฟ้องจะระบุอ้างมาตรา 354 มาด้วยก็ตาม ก็เป็นการระบุเกินมาจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์ในตอนต้น ถือไม่ได้ว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดตามมาตรา 354ฉะนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง คดีของโจทก์จึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา193 ทวิ คดีนี้ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า พยานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่พอฟังลงโทษจำเลย การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าพยานโจทก์ทั้งหมดรับฟังลงโทษจำเลยได้ เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้น จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงอันต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th