คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9332/2542
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 175 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 ม. 31, 54
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง ต้องนำมาใช้ในการพิจารณาคดีแรงงาน โดยนัยแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 การที่ศาลแรงงานจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ จึงเป็นดุลพินิจของศาลแรงงาน จำเลยอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจของศาลแรงงานในการอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 วรรคหนึ่ง
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระค่าชดเชยจากการที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างได้เลิกจ้างโจทก์ผู้เป็นลูกจ้างให้แก่โจทก์ เป็นเงิน 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ (เทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินใหม่ในขณะยื่นฟ้องเป็นเงิน 307, 500 บาท) และจำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้นายสว่าง อาการส ฟ้องคดีนี้ จำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์ จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามฟ้อง ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทและสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ทนายโจทก์แถลงขอถอนฟ้องศาลแรงงานกลางสอบฝ่ายจำเลยแล้ว ทนายจำเลยแถลงคัดค้านการถอนฟ้องอ้างว่า จำเลยให้การต่อสู้ในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องว่าโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ในคดีนี้เป็นผู้ฟ้องคดี ทั้งโจทก์สืบพยานจนเสร็จไปแล้วจำเลยพร้อมจะสืบพยานให้เสร็จในนัดนั้น ไม่สมควรอนุญาตให้ถอนฟ้อง
ศาลแรงงานกลางเห็นว่า ศาลกำหนดประเด็นข้อพิพาทข้อ 1 ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ไว้แล้ว เมื่อผู้รับมอบอำนาจโจทก์ไม่ติดใจต่อสู้ในประเด็นเรื่องมีอำนาจฟ้องหรือไม่ และขอถอนฟ้องเพื่อให้ตัวโจทก์มาฟ้องด้วยตนเอง หากยังประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปเท่ากับโจทก์ยอมรับว่าไม่มีอำนาจฟ้อง หากจะดำเนินการสืบพยานจำเลยต่อไปก็ไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดีเพราะโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว จึงเห็นสมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะการที่โจทก์ขอถอนฟ้องก็เพื่อจุดประสงค์จะปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินคดีของโจทก์แล้วนำคดีมาฟ้องจำเลยใหม่อีก ทำให้จำเลยเสียเปรียบศาลแรงงานกลางชอบที่จะไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง บัญญัติว่า "ภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้ว โจทก์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรืออนุญาตภายในเงื่อนไขตามที่เห็นสมควรก็ได้ ฯลฯ" ซึ่งบทกฎหมายดังกล่าวจะต้องนำมาใช้ในการพิจารณาคดีแรงงาน โดยนัยแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 เหตุนี้ การที่ศาลแรงงานกลางจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ จึงเป็นดุลพินิจของศาลแรงงานกลางอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลแรงงานกลางในการอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย โรเบิตร์ มอเรอ เลอเฟอ จำเลย - บริษัท สยามสินทรัพย์พัฒนา จำกัด
ชื่อองค์คณะ วิธวิทย์ หิรัญรุจิพงศ์ สละ เทศรำพรรณ พูนศักดิ์ จงกลนี
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan