ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จากที่ดินโจทก์มีทางผ่านที่ดินจำเลยออกไปสู่ทางสาธารณะ ซึ่งโจทก์และประชาชนใช้มาเป็นเวลา 90 ปี จนได้ภารจำยอมแล้ว จำเลยล้อมรั้วปิดกั้นทางขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วสิ่งกีดขวางที่ปิดกั้นเส้นทางเข้าออก และให้จดทะเบียนภารจำยอมเหนือที่ดินจำเลย

จำเลยต่อสู้ว่า ไม่เคยมีทางสาธารณประโยชน์หรือทางภารจำยอมฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ทางพิพาทไม่เป็นภารจำยอม พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏชัดตามแผนที่พิพาทซึ่งคู่ความรับรองกันว่าโจทก์นำชี้ที่ดินของโจทก์ตามโฉนดที่ 30 คือที่ภายในเส้นสีเหลืองทั้งหมด ซึ่งมีเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 52 วา ส่วนที่ดินของจำเลยคือที่ดินภายในเส้นสีเขียวทั้งหมดซึ่งเป็นเขตโฉนดที่ 70 และ 17675

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางเดิน อ้างว่าจำเลยได้ล้อมรั้วปิดกั้นทางผ่านเข้าออกบนที่ดินของจำเลย โดยอ้างสิทธิทางภารจำยอมว่า เดิมมีทางใช้เกวียนเข้าออกไปสู่ทางสาธารณะ ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมายนั้น ลักษณะสำคัญของภารจำยอมก็คือ ต้องมีอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อยสองอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์หนึ่งต้องตกอยู่ในภาระรับกรรมบางอย่าง หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างเพื่อประโยชน์แก่อีก อสังหาริมทรัพย์หนึ่ง อสังหาริมทรัพย์ที่ต้องตกอยู่ในภาระรับกรรมบางอย่างนั้นเรียกว่า "ภารยทรัพย์" และที่มีสิทธิเหนือภารยทรัพย์นั้นเรียก "สามยทรัพย์" แต่ตามแผนที่พิพาทที่โจทก์นำชี้กลับปรากฏว่า รั้วที่จำเลยปิดกั้นทางผ่านเข้าออกที่โจทก์ขอให้รื้อถอนนั้นอยู่ภายในเส้นสีเหลืองซึ่งเป็นเขตที่ดินของโจทก์เอง เมื่อโจทก์อ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินซึ่งจำเลยปิดกั้นทาง ก็เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการฟ้องร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะมาฟ้องอ้างสิทธิภารจำยอม ให้จำเลยรื้อรั้วและบังคับให้จำเลยจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมในที่ดินซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์หาได้ไม่ กรณีของโจทก์เป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์นำสืบได้ไม่สมสภาพข้อหาข้ออ้างในคำฟ้อง แม้ทางพิพาทบางส่วนที่ปรากฏในแผนที่พิพาทจะอยู่ในเขตที่ดินของจำเลย ก็เป็นทางตอนปลาย ซึ่งจำเลยมิได้ทำรั้วปิดกั้นแต่อย่างใดเมื่อทางพิพาทตอนต้นทางซึ่งจำเลยปิดกั้นรั้ว โจทก์ไม่อาจขอให้บังคับจำเลยเปิดในฐานะเป็นทางภารจำยอมได้ในคดีนี้เสียแล้ว ย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยเฉพาะทางตอนปลายต่อไป เพราะถึงอย่างไรโจทก์ก็ยังไม่อาจใช้ทางพิพาทผ่านเข้าออกได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์มานั้นชอบแล้ว

พิพากษายืน แต่ไม่ติดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องร้องใหม่เกี่ยวกับทางพิพาทนี้ตามที่ถูกต้องต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th