ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 319,915.73 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 312,342,50 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 181,627.26 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 26 มิถุนายน 2526) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้จำเลยทั้งสองใช้แทนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี

โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 312,342.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 มีนาคม 2546 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกินจำนวน 7,573.23 บาท และให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความรวม 9,000 บาท

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ.2501 มีวัตถุประสงค์ในการจัดให้ได้มาและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค เดิมบริษัทศิวะเครื่องเย็น จำกัด เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าต่อโจทก์ โจทก์ได้ติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเลขที่ พิเศษ/ร-6362 ขนาด 150 แอมแปร์ 380 โวลต์ 3 ยก 4 สาย ยี่ห้อเออีจี (AEG) ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 440/45-51 ซอยชัยสมรภูมิ ถนนราชวิถี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ต่อมาจำเลยที่ 1 รับโอนสิทธิการใช้ไฟฟ้าจากบริษัทศิวะเครื่องเย็น จำกัด เมื่อเดือนสิงหาคม 2542 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครองสถานที่ใช้ไฟฟ้าโดยเช่าจากจำเลยที่ 1 และเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าจากเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าดังกล่าว ต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2543 โจทก์ได้เปลี่ยนเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเป็นยี่ห้อแลนดิส (LANDIS) นายพิพัฒน์พนักงานโจทก์ได้จดบันทึกหน่วยการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องวัดผิดพลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนพฤษภาคม 2544 เป็นเหตุให้โจทก์คำนวณค่าไฟฟ้าน้อยไปกว่าที่เป็นจริง

มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองประการแรกว่า คำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม เนื่องจากโจทก์มิได้บรรยายไว้ในคำฟ้องว่า ในการใช้กระแสไฟฟ้าของจำเลยที่ 2 ในแต่ละเดือนมีการใช้กระแสไฟฟ้าจริงเท่าใด และมีการจดหน่วยกระแสไฟฟ้าคลาดเคลื่อนในแต่ละเดือนเป็นจำนวนเท่าใด ศาลล่างทั้งสองได้วินิจฉัยปัญหานี้ไว้ชอบด้วยกฎหมายแล้วว่าคำฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ศาลฎีกาจึงไม่หยิบยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยซ้ำอีก

มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองประการที่สองว่า จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชำระค่าไฟฟ้าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนพฤษภาคม 2544 ต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด โจทก์มีพนักงานโจทก์เป็นพยานประกอบกันว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2544 โจทก์ตรวจสอบพบว่า นายพิพัฒน์ จดบันทึกหน่วยการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเลขที่ พิเศษ/ร-6362 ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนพฤษภาคม 2544 ผิดพลาด เป็นเหตุให้โจทก์คำนวณค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากจำเลยทั้งสองน้อยไปกว่าที่เป็นจริง เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายน 2543 โจทก์ได้เปลี่ยนเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าของจำเลยที่ 1 เป็นยี่ห้อแลนดิส (LANDIS) ซึ่งมีช่องสำหรับอ่านหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่ช่องด้านล่าง ส่วนช่องด้านบนใช้สำหรับอ่านค่ากิโลวัตต์ฮาวร์ แต่นายพิพัฒน์อ่านค่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าจากช่องด้านบนซึ่งไม่ถูกต้อง โจทก์จึงตรวจสอบหน่วยการใช้ไฟฟ้าแล้วคำนวณค่าไฟฟ้าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนพฤษภาคม 2544 ตามจำนวนหน่วยที่ถูกต้องเป็นเงินค่าไฟฟ้า 340,879.50 บาท ตามวิธีคำนวณหน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่ม นอกจากนี้จำเลยทั้งสองยังค้างชำระค่าไฟฟ้าระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2545 ถึงวันตัดไฟฟ้าวันที่ 11 มิถุนายน 2545 เป็นเงิน 86,767 บาท รวมเป็นเงิน 427,646.50 บาท โจทก์นำเงินค่าไฟฟ้าที่จำเลยทั้งสองชำระแล้วเป็นเงิน 10,004 บาท และเงินค้ำประกันการชำระหนี้ค่าไฟฟ้าเป็นเงิน 105,300 บาท มาหักชำระหนี้ดังกล่าว จำเลยทั้งสองจึงค้างชำระค่าไฟฟ้าโจทก์เป็นเงิน 312,342.50 บาท ซึ่งจำเลยทั้งสองมีนางสาวศรีประไพกรรมการผู้จัดการจำเลยที่ 2 เป็นพยานเบิกความเพียงลอย ๆ โดยไม่มีพยานหลักฐานใดมาสนับสนุนว่า ค่าไฟฟ้าระหว่างเดือนตุลาคม 2543 ถึงเดือนพฤษภาคม 2544 ที่จำเลยที่ 2 ชำระให้โจทก์เป็นค่าไฟฟ้าในอัตราปกติเท่านั้น จำเลยทั้งสองมิได้นำสืบหักล้างหรือนำสืบให้เห็นว่า ค่าไฟฟ้าที่โจทก์คำนวณใหม่และเรียกเก็บเพิ่มจากจำเลยทั้งสองไม่ถูกต้องไม่ชอบอย่างไร พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือยิ่งกว่าพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสอง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าโจทก์มีสิทธิเรียกค่าไฟฟ้าที่ขาดไปเป็นเงิน 312,342.50 บาท จากจำเลยทั้งสองได้ แม้การจดบันทึกหน่วยการใช้ไฟฟ้าผิดพลาดเกิดจากการกระทำของพนักงานของโจทก์เอง โดยจำเลยทั้งสองมิได้มีส่วนร่วมด้วยก็ตาม โจทก์ก็สามารถเรียกค่าไฟฟ้าที่จำเลยทั้งสองใช้ไปตามความเป็นจริงได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยทั้งสองประการสุดท้ายว่า จำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดในส่วนของดอกเบี้ยต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด โดยจำเลยทั้งสองฎีกาว่า การคิดค่าไฟฟ้าไม่ถูกต้องเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานโจทก์ที่จดหน่วยการใช้ไฟฟ้าไม่ถูกต้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยทั้งสอง ค่าไฟฟ้าเป็นหนี้เงินตามกฎหมาย จำเลยทั้งสองจะต้องชดใช้ดอกเบี้ยเมื่อผิดนัด ซึ่งก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์มีหนังสือทวงถามจำเลยที่ 1 ให้ชำระหนี้ค่าไฟฟ้าเป็นเงิน 312,342.50 บาท แก่โจทก์ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 จำเลยที่ 1 รับหนังสือทวงถามเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2546 แต่เมื่อครบกำหนดจำเลยทั้งสองเพิกเฉย จำเลยทั้งสองจึงตกเป็นผู้ผิดนัดต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 มีนาคม 2546 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.1695/2551

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th