ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่อันเป็นเครื่องวิทยุคมนาคม รวม ๕ เครื่อง ซึ่งไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียนพร้อมแบตเตอรี่ ๕ อัน อันเป็นอุปกรณ์ที่จำเลยใช้ประกอบกับเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และจำเลยนำเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง ๕ เครื่องไปปรับใช้คลื่นโทรศัพท์ของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้วจำเลยได้ใช้และนำออกให้บุคคลทั่วไปเช่าใช้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๔, ๖, ๒๒, ๒๓ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑, ๓๒, ๓๓ ริบเครื่องวิทยุคมนาคมพร้อมแบตเตอรี่ของกลาง เพื่อให้ไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข และริบของกลางอื่นทั้งหมด

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๖, ๒๓ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกกระทงละ ๖ เดือน รวม ๕ กระทงเป็นจำคุก ๓๐ เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑๕ เดือน ริบเครื่องวิทยุคมนาคมพร้อมแบตเตอรี่ของกลาง จำนวน ๕ เครื่อง ไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขและริบของกลางอื่นทั้งหมด

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท อีกสถานหนึ่ง เป็นจำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อแรกมีว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันหรือไม่ เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันตามจำนวนเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางที่จำเลยมีและใช้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งสามารถแยกการกระทำจากกันเป็นราย ๆ ไปได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม ๕ กระทง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อต่อไปมีว่า สมควรลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษหรือไม่ เห็นว่า การกระทำของจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของคลื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สร้างความหวาดระแวงแก่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วไป ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นในสังคม พฤติการณ์ไม่สมควรรอการลงโทษ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ รอการลงโทษให้จำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้นเช่นกัน

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th