ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ได้ความว่าที่นารายพิพาทเป็นมฤดกของบิดามาดาโจทก์จำเลยบิดามารดาตายเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ โจทก์แลบุตรี น.จำเลยได้เข้าทำกินด้วยกันมา แต่โจทก์ทำเป็นส่วนมาก ส่วน น.จำเลยเป็นผู้รักษาโฉนดไว้ ต่อมา พ.ศ.๒๔๗๒ จำเลยขอรับมฤดกที่พิพาทต่อหอทะเบียน โจทก์จึงฟ้องขอให้ที่เป็นกรรมสิทธิแก่โจทก์ผู้เดียว
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จำเลยแลญาติพี่น้องได้ปกครองที่พิพาทรวมกันแลแทนกันมา แม้ น.จำเลยจะไม่ได้เข้าทำนาก็ดี แต่ว่าได้ถือโฉนดไว้ดังนี้ ยังไม่ถือว่าขาดปกครอง ตามฎีกาที่ ๑๘๓/๖๕ นอกจากนี้บุตรี น.จำเลยยังได้เข้าทำนาโดยอาศัยอำนาจ น. แลโจทก์มิได้คัดค้าน จำเลยย่อมมีกรรมสิทธิ เทียบฎีกาที่ ๑๒๕/๕๔ จึงให้แบ่งที่พิพาทระวางโจทก์กับจำเลยคนละส่วนเท่า ๆ กัน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








