ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินและตึกแถวที่พิพาทจากพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ ซึ่งจำเลยเช่าตึกที่พิพาททำการค้า สัญญาเช่าหมดอายุแล้วขอให้ขับไล่และให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์มิใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกที่พิพาทที่แท้จริง จำเลยเป็นผู้รับโอนสิทธิการเช่าจากผู้เช่าเดิมมีกำหนดเวลา 5 ปี โดยทำสัญญาครั้งละ 1 ปี ในการนี้จำเลยได้ให้เงินค่าตอบแทนแก่เจ้าของเดิมด้วย จำเลยใช้ตึกที่พิพาทมาแล้ว 2 ปี มีสิทธิใช้อีกประมาณ 3 ปี และเรียกค่าเสียหายจากโจทก์

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ซื้อที่ดินและตึกที่พิพาทจากตัวแทนของเจ้าของเดิมโดยสุจริตทำนิติกรรมจดทะเบียนถูกต้องแล้วจำเลยตกลงเช่าที่ดินและตึกที่พิพาทจากเจ้าของเดิมอย่างไร โจทก์ไม่ทราบ ไม่ผูกพันโจทก์

วันชี้สองสถาน จำเลยรับว่าสัญญาต่างตอบแทนที่จำเลยกล่าวอ้างไม่มีหนังสือสัญญา

ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็น

  1. อำนาจฟ้อง

  2. สัญญาเช่าที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทนและผูกพันโจทก์หรือไม่

  3. ค่าเสียหาย

สำหรับประเด็นข้อ 2 ศาลวินิจฉัยได้เอง ไม่จำเป็นต้องสืบพยานให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยในข้อนี้

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ซื้อที่ดินและตึกที่พิพาทจากเจ้าของเดิมแล้ว เงินที่จำเลยให้แก่เจ้าของที่ดินและตึกที่พิพาทเดิมเป็นเงินกินเปล่า จึงไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า การบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์เป็นโมฆะ และสัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับเจ้าของเดิมเป็นสัญญาต่างตอบแทน ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเป็นการไม่ชอบ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าการบอกเลิกสัญญาเช่าเป็นโมฆะเพราะเป็นวันก่อนหน้าที่โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่พิพาทนั้น จำเลยไม่ได้ให้การไว้โดยชัดแจ้งว่า การบอกเลิกสัญญาเช่านั้นไม่ชอบเพราะเหตุใด เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้นไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย

สัญญาเช่าที่จำเลยทำไว้กับเจ้าของเดิม เป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้ให้การไว้แล้วว่าจำเลยรับโอนสิทธิการเช่ามาอีกทอดหนึ่ง แสดงว่าตึกและที่พิพาทได้สร้างเสร็จแต่วันที่นายหนึ่ง แซ่จิว เช่าแล้ว เงินที่จำเลยชำระให้ภายหลังแก่เจ้าของเดิมจึงมิใช่เงินช่วยค่าก่อสร้าง มีลักษณะเป็นเงินกินเปล่าเท่านั้น จึงหาใช่สัญญาต่างตอบแทนไม่ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 643/2507 คดีระหว่างนายเชื้อชาย รังสิมันต์ โจทก์ นางบุ้นฮั้ว แซ่เฮง จำเลย ไม่จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ศาลล่างสั่งงดสืบพยานจำเลยนั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นเดียวกัน

ศาลล่างพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและยกฟ้องแย้งของจำเลยนั้นชอบแล้ว

จึงพิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th