ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินให้โจทก์แต่จำเลยใส่ชื่อเป็นเจ้าของในโฉนด อ้างว่าได้ทำยอมความกับมารดาโจทก์ยอมความนี้โจทก์มิได้รู้เห็นด้วยจึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง

จำเลยที่ 1, 2 ให้การว่า พินัยกรรมปลอม เจ้ามรดกยกทรัพย์พิพาทให้นายพิศาล สรรพกิจ และจำเลยที่ 2 เมื่อนายพิศาล สรรพกิจ ตายจำเลยที่ 1และ 3 ได้รับมรดกและครอบครองทรัพย์พิพาทตลอดมาจำเลยที่ 1-2 เคยฟ้องโจทก์กับมารดาโจทก์ และได้ประนีประนอมกันโดยจำเลยใช้เงินให้โจทก์ โจทก์คืนทรัพย์พิพาทให้จำเลย จำเลยได้ออกโฉนดและครอบครองมาเกิน 10 ปีแล้ว

จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทตกเป็นของโจทก์ตามพินัยกรรมแต่จำเลยครอบครองทรัพย์พิพาทตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมารดาโจทก์ทำกับจำเลยนอกศาล โดยเสียเงินให้มารดาโจทก์ไป 115,000 บาท ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทตามสัญญาประนีประนอมยอมความมาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 แม้สัญญานี้จะมิได้รับอนุญาตจากศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4) ไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้เยาว์ แต่ก็เป็นพฤติการณ์อันหนึ่งที่แสดงลักษณะการครอบครองของจำเลยได้ว่าครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ แม้การเข้าครอบครองตามสัญญาซึ่งจะต้องชำระเงินตอบแทนต่อไปในบางกรณีอาจถือเป็นการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังมิได้เพราะเป็นการเข้าครอบครองโดยอาศัยความยินยอมของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งภายใต้ข้อผูกพันที่จะต้องชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญาก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่กัน แต่คดีนี้ปรากฏว่ามีคดีพิพาทกรรมสิทธิ์ระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ตามสัญญาไม่มีกรณีที่จะต้องจดทะเบียนการโอนข้อตกลงที่มารดาโจทก์ยอมให้จำเลยเข้าครอบครองตั้งแต่วันที่ระบุไว้จึงเป็นการยอมให้เข้าครอบครองดุจเจ้าของโดยเด็ดขาด การชำระเงินเป็นเพียงหนี้อันหนึ่ง ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าที่ศาลล่างฟังว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์นั้นชอบแล้ว แม้มารดาโจทก์จะทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ที่พิพาทเป็นของจำเลยโดยมิได้รับอนุญาตจากศาลในระหว่างที่โจทก์เป็นผู้เยาว์ ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4) แต่ก็ไม่ได้ความว่ามารดาโจทก์กับจำเลยได้คบคิดกันกระทำการเพื่อให้โจทก์เสียหาย ความข้อนี้จึงไม่ขัดขวางมิให้จำเลยได้สิทธิตามมาตรา 1382 ดังได้วินิจฉัยมาแล้วแต่อย่างใด

จึงพิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th