ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแขวงพระนครใต้ ขอให้ลงโทษฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้นางมุ่ยฮั้วผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ระหว่างการสืบพยานจำเลยผู้เสียหายถึงแก่ความตาย โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง เป็นขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง และฟังว่าจำเลยที่ 2 ประมาทฝ่ายเดียว พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300
โจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นหลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้วว่า ผู้เสียหายถึงแก่ความตายเนื่องจากเหตุรถชนกันตามฟ้องและพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเพิ่มเติมในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว ทั้งปรากฏว่าศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษา การที่ศาลล่างทั้งสองอ้างเหตุ ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้และเพิ่มเติมฟ้องเพราะเหตุเพียงว่าหากอนุญาตแล้วศาลชั้นต้นจะไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา หาได้ไม่ เพราะไม่มีผู้ใดอาจคาดหมายได้ว่าผู้เสียหายจะถึงแก่ความตายหรือไม่ ทั้งโจทก์จะยื่นฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายใหม่อีกไม่ได้ กรณีเช่นนี้โจทก์จึงได้แต่ขอแก้ฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 เท่านั้น กรณีจึงมีเหตุอันควรและสมควรอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องแล้ว คดีเกินอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 15 ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่อาจวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงต่อไปได้
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ให้โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลชั้นต้นที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









