ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายยาประเภท ค.ขายได้แต่เฉพาะยาสำเร็จรูปซึ่งไม่ใช่ยาอันตราย จำเลยได้บังอาจขายยาซึ่งเป็นยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รวม 38รายการ ให้แก่ประชาชน โดยจำเลยมิได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจขายยาประเภท ก. จากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษจำเลยและริบยาของกลาง จำเลยรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องแต่เห็นควรไม่ริบยาของกลาง ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้ริบยาของกลางนั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบยาของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การริบยาของกลางหรือไม่ จะต้องพิจารณาว่าความผิดที่จำเลยกระทำนั้นเป็นความผิดที่เกิดขึ้นในตัวเองจากการกระทำหรือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเพราะการไม่ได้รับอนุญาต ศาลฎีกาเห็นว่า ยาของกลางแม้จะเป็นยาอันตราย แต่ก็เป็นยาชอบด้วยกฎหมาย และอาจซื้อขายกันได้หากว่าผู้ขายขอรับใบอนุญาตให้ขายจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเสียก่อน ความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้รับใบอนุญาตขายยาจากพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้นยาของกลางจึงมิใช่สิ่งของที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดโดยตรง อันจะพึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 พิพากษายืน.
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








