โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดอาญาตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้และตามระเบียบคำสั่งของกรมตำรวจ ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบคือ จำเลยพบเห็นนางวงศ์ กับพวก เล่นการพนันไฮโลว์โดยผิดกฎหมายในท้องที่ซึ่งจำเลยมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายแต่จำเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวโดยมิชอบ มิได้ทำการจับกุมนางวงศ์กับพวก ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมตำรวจและประชาชนโดยทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า วันเกิดเหตุมีการเล่นการพนันไฮโลว์ที่บ้านนางวงศ์เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมการพนันดังกล่าว พบนางวงศ์กับพวกกำลังเล่นการพนันอยู่ในห้องผู้ที่อยู่ในห้องเล่นการพนันมีทั้งหมด 13 คนรวมทั้งจำเลยด้วย ขณะเกิดเหตุจำเลยรับราชการเป็นตำรวจ และในวันเกิดเหตุจำเลยไม่ได้แต่งเครื่องแบบตำรวจจำเลยไปที่บ้านนางวงศ์เพื่อจะเล่นการพนันไฮโลว์ แต่จำเลยยังไม่ทันได้เล่นเพราะมัวคุยอยู่กับนางวงศ์ พอดีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำการจับกุม จำเลยไม่ได้แต่งเครื่องแบบและไม่มีอาวุธปืน ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจทำการสืบสวนคดีอาญาและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ในกรณีที่มีผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าแม้ในที่รโหฐานจำเลยก็มีอำนาจจับโดยไม่ต้องมีทั้งหมายจับและหมายค้นประกอบกับระเบียบของกรมตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบก็มีอำนาจจับ การที่จำเลยเข้าไปในห้องเล่นการพนันพบเห็นผู้กำลังเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันแล้วจำเลยไม่ทำการจับกุมย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการกรมตำรวจ จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา