Q: สัญญาซื้อขายรถยนต์
สวัสดีครับ เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ทำการขายรถยนต์คันนึงให้กับเพื่อนของพ่อซึ่งเขาเป็นญาติกัน ตอนขายก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนอยากได้เขาก็ขอลดราคาพูดจาปากหวาน จาก 55,000 บาท เหลือ 50,000 บาท เราจึงได้ทำสัญญาซื้อขายซึ่งเราไม่รอบคอบเองในเรื่องสัญญาจึงไม่ได้ทำเป็นสัญญาเช่าซื้อเพราะตอนนั้นก็ไม่ได้ทราบเรื่องสัญญามากนัก โดยสัญญาซื้อขายที่เขียน เรามีหมายเหตุไว้เเค่ว่า ให้ชำระค่างวดรถ 18 งวด ทุกๆสิ้นเดือน เราไม่ได้เขียนรายละเอียดเช่น ขาดผ่อนกี่เดือนยึดรถ เเละน่าจะเสียเปรียบในเรื่องของสัญญา ซึ่งต่อมาเขาก็ผ่อนมาได้ 3-4 งวด ก็ขาดผ่อนบ้างบอกว่ากำลังหางานใหม่ เราก็เข้าใจจึงรอ เลื่อนวันจ่ายเราก็เข้าใจ ขอเลื่อนเป็นวันที่ 10 ของเดือนต่อไปเราก็เค้าใจ เพราะเขาบอกเงินเดือนออกวันที่ 10 จ่ายล่าช้าบ้างไม่จ่ายบ้าง เราไม่ทักก็จะไม่เเจ้งอะไรเลยว่าไม่มีหรือขอเลื่อน เราต้องเป็นคนทักไปซึ่งล่าสุดเขาผ่อนมาได้ประมาณ 13-14 งวด เขาก็ขาดผ่อนบอกเราว่าไม่มี เราก็รอ ทักถามทุกวันที่ 10 ทุกเดือนเเต่มีเเต่ให้รอ ตอนนี้ขาดผ่อนเข้าเดือนที่ 4 พอเราทักเขาไปเขาตอบมาว่า “ ไม่มีเวลาว่าง กำลังหาเงินทยอยให้ เดี๋ยวจ่ายเดี๋ยวส่งสลิปให้ดูเอง ” พอเราทวงถามถ้าไม่ไหวก็คืนรถเรามา เพราะเคยคุยกันเขาบอกถ้าผ่อนไม่ไหวจะคืนรถ เขาตอบมาว่า “จ่ายมาจนจะหมดเเล้วจะมาทวงรถคืนได้ไง” คือในทางกฏหมายเราใช้สัญญาซื้อขายไม่ได้ใช้สัญญาเช่าซื้อคือเราจะเสียเปรียบทางกฏหมายไหมครับ อยากได้คำปรึกษาว่าถ้าหากเขาไม่จ่ายเดือนหน้านี้ครบ 18 งวด เขาไม่จ่ายมา 4 เดือนเเบบนี้เราสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ
คำตอบจากทนาย (3)
A: หากสัญญาไใ่รัดกุมก็ควรทำหนังสือรับสภาพหนี้กนใหม่ให้ชัดเจนไม่อย่างงั้นต้องฟ้องสถานเดียวครับ
A: ญาติของคุณผิดนัดไม่ชำระค่ารถยนต์ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ซึ่งถือเป็นการ ผิดสัญญาซื้อขาย ทำให้คุณได้รับความเสียหาย แนวทางการใช้สิทธิ มีดังนี้ 1. การเจรจาประนีประนอม ก่อนดำเนินการทางกฎหมายอื่น ควรพยายามเจรจาประนีประนอมกับญาติของคุณก่อน โดยอาจเสนอทางเลือกต่างๆ เช่น การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ การลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวด หรือการขอคืนรถยนต์ 2. การดำเนินคดีทางแพ่ง หากการเจรจาไม่เป็นผล คุณสามารถดำเนินคดีทางแพ่งเพื่อบังคับให้ญาติของคุณชำระหนี้ตามสัญญาได้ โดยฟ้อง คดีผิดสัญญา ต่อศาลแพ่ง ซึ่งศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาคดี คือ ศาลแพ่งที่มีเขตอำนาจใน ภูมิลำเนาของจำเลย (ญาติของคุณ) หรือ สถานที่ที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ หลักฐานที่ควรเตรียม ได้แก่ สัญญาซื้อขายรถยนต์ หลักฐานการชำระเงิน หลักฐานการทวงถาม คำพิพากษาที่เป็นคุณ ศาลอาจพิพากษาให้ญาติของคุณชำระหนี้ตามสัญญาพร้อมดอกเบี้ย และชำระค่าทนายความ ค่าฤชาธรรมเนียม คำพิพากษาที่เป็นโทษ หากศาลเห็นว่าสัญญาซื้อขายรถยนต์มีข้อความไม่ชัดเจน หรือมีการตกลงกันในลักษณะเป็น สัญญาเช่าซื้อ ศาลอาจพิพากษาให้คุณไม่ได้รับชำระหนี้ตามที่ฟ้อง 3. การแจ้งความดำเนินคดีอาญา (กรณีมีเจตนาไม่ชำระหนี้) หากมีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าญาติของคุณ มีเจตนาไม่ชำระหนี้ ตั้งแต่ต้น เช่น หลอกลวงว่าจะผ่อนชำระ แต่ไม่เคยมีความตั้งใจที่จะชำระหนี้เลย คุณอาจแจ้งความดำเนินคดีอาญา ฐาน ฉ้อโกง ได้ หลักฐานที่ควรเตรียม ได้แก่ สัญญาซื้อขายรถยนต์ หลักฐานการชำระเงิน หลักฐานการทวงถาม พยานบุคคลที่ทราบเหตุการณ์ แนวทางการใช้สิทธิ ควรปรึกษากับทนายความเพื่อพิจารณาแนวทางการใช้สิทธิที่เหมาะสมกับกรณีของคุณ หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ควรศึกษาเพิ่มเติมและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1414/2504: “การที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่า จำเลยจะซื้อรถยนต์ของโจทก์โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือนนั้น แม้โจทก์จะระบุในสัญญาว่า ถ้าจำเลยผิดนัดไม่ส่งเงินครบ 3 งวด โจทก์จะยึดรถยนต์คืน ก็หาทำให้สัญญานั้นเป็นสัญญาเช่าซื้อไม่ ยังคงเป็นสัญญาซื้อขายอยู่ เพราะกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ได้โอนไปยังจำเลยแล้วตั้งแต่โจทก์ส่งมอบรถยนต์ให้จำเลย” ฎีกาที่ 288/2527: “จำเลยรับว่าได้ซื้อรถยนต์ของโจทก์จริง แต่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขาย โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขายอย่างไร จึงจะถือว่าโจทก์นำสืบให้เห็นความผิดของจำเลยชัดแจ้ง”
A: จากข้อเท็จจริงข้างต้นถ้าสัญญาเขียนชัดเจนว่าเป็นสัญญาซื้อขาย กรรมสิทธิ์ในรถจะถูกโอนไปยังผู้ซื้อแล้วครับ ตอนนี้ตัวผู้ขายมีสิทธิได้รับค่างวดรถให้ครบถ้วน แนะนำให้ดำเนินการออกหนังสือทวงถาม เพื่อเรียกให้ชำระหนี้ที่ค้างชำระ หากผู้ซื้อได้รับหนังสือทวงถามแล้วยักเพิกเฉย สามารถดำเนินการฟ้องเป็นคดีแพ่งได้ครับ
เดือน
ติดต่อเรา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่
