Q: ภรรยาแอบคุยกับชายอื่น สามีจับได้ก็ไม่เลิกคุย
ขออนุญาตขอคำปรึกษาครับ ขออธิบายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยนะครับ ครั้งที่ 1 (ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ผมกับภรรยา แต่งงาน และมีบุตรสาวด้วยกัน 1คน อยู่ๆกันมาวันนึง ตอนนั้นภรรยาทำงานหน่วยงานราชการ ผมทะเลาะกับภรรยาเนื่องจากผมสังเกตุพฤติกรรมเธอเปลี่ยนไปมาก หวงมือถือ และเธอก็แสดงอาการหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อผมไปนอนด้วย และใช้คำพูดดูถูกเหยียดผมแทบทุกครั้งที่ทะเลาะ จากที่เมื่อก่อนไม่เคยพูด (ปกติผมก็ไปๆมาๆบ้านตัวเองด้วย) จนผมเริ่มหึงหวง นานวันเข้า ผมพลั้งมือให้กำลังเลยมีปากเสียงกับผู้ใหญ่ฝั่งภรรยา ท่านห้ามผมเข้าบ้าน ผมเลยทำงานต่างจังหวัด ผมก็พยายามติดต่อภรรยา แต่เธอไม่คุยด้วย แต่ให้คุยกับลูก และจะคุยกับผมแค่เรื่องลูกเท่านั้น ผ่านไป6เดือน ผมมีแฟนใหม่ พอภรรยาผมทราบเธอก็จขอกลับมาอยู่แบบครอบครัวกับผม ผมก็เลยถามภรรยาว่า "มีคนอื่นใช่มั้ยจะให้อภัยถ้าไม่โกหก" ภรรยายอมสารภาพว่าแค่คุย ผู้ใหญ่ที่บ้านก็รู้ เลยถามชื่อชายชู้ ภรรยาผมก็บอกทุกอย่าง (ขอใช้นามสมมุติว่าของชายชู้ว่านายM) ซึ่งนาย M ทราบอยู่แล้วว่าภรรยาผมมีครอบครัวแล้ว แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เอาเรื่องครับ แค่ให้ภรรยาบล๊อคนายMจากบัญชี Social Media แอพ Facebook หลังจากนั้นผมก็รับภรรยากลับมาอยู่ด้วยกันที่ทำงาน เป็นห้องพักรับรองของหน่วยงานราชการจัดสรรค์ให้ เจ้านายของผมเมตตารับถรรยาเข้าทำงานด้วย ดูเหมือนจะโอเครมาก ครั้งที่ 2 (จดทะเบียนสมรสแล้ว) เหตุการณ์ผ่านไป มีทะเลาะบ้าง กระทบกระทั่งกันบ้าง ตามธรรมชาติสามี ภรรยาทั่วๆไป ผ่านไปได้ประมาณ 1ปี 6เดือน จนเกิดเรื่อง ครั้งนี้ผมสังเกตุพฤติกรรมเธอเปลี่ยนไปเหมือนครั้ง 1 ทุกอย่าง พักหลังพอทะเลาะเธอมักตำหนิผมว่า ถ้าผมทำงานได้เงินเยอะกว่านี้เธอคงไม่ต้องมาเหนื่อย (เกริน ลักษณะงานของผมคือตรวจและควบคุมงานก่อสร้างของส่วนราชการที่มีบริษัทเป็นผู้รับเหมา เพื่อให้ตรงตามแบบแปรนที่สำนักออกแบบบังคับใช้ เงินเดือน15,000บ. ภรรยาทำงานเป็นเสมียรประจำโครงการ เงินเดือน 15,00บ.)ถ้าบริษัทไม่แจ้งตรวจ ก็จะอยู่กะภรรยาที่สำนักงาน) แรกๆที่เธอพูดผมคิดว่าเธอคงเหนื่อยงานเอกสารเยอะ แต่พอนานๆไปงานก็ไม่เยอะ แต่เธอมักหงุดหงิด ตอนนั้นเออกรถกระบะ4ปะตู ภรรยาเสนอว่าทุกอย่างคนล่ะครึ่ง ค่างวด ค่าประกัน น้ำมัน ผมก็ตกลง ผมเป็น คนนิสัยใช้เงินเก่ง แต่จะใช้ก็ต้อเมื่อจ่ายหนี้สินที่ตกลงกันไว้แล้ว เหลือเท่าไหร่ใช้เท่านั้น ตอนแรกก็คิดว่าเธออาจเครียด เพราะไม่เคยเป็นหนี้ แล้วนิสัยตัวเธอเป็นคนมัทยัด ขอเข้าเรื่องหลักที่เกิดขึ้นครับ วันที่ 8/9/66 ทะเลาะกันแล้วเธอก็กลับบ้านตัวเอง ผมตามไปหาที่บ้านภรรยา จะไปง้อเธอ เพราะผมคิดว่าตั้งแต่ผมรู้สึกเธอเปลี่ยนไปเหมือนครั้งที่1 ผมเลยก็เริ่มขอดูมือถือเธอ จนทำให้เธอเครียด เลยไปง้อเธอที่บ้าน แต่ผมไม่มีโอกาสได้คุย เพราะภรรยาให้ผู้ใหญ่ที่บ้านไล่ผม เหมือนครั้งที่1ทุกอย่าง จนผมหวั่นใจ ออกจากงานทั้งคู่ พยายามไปหาหลายครั้ง เขาก็จะให้ผู้ใหญ่มาไล่ผม ถ้าไม่ยอมกลับบ้านก็แจ้งตำรวจมาไล่ผม เลยลองติดต่อหานายM ถามเขาว่ายังคุยกันอยู่รึป่าว นายMปฎิเสธ ผมก็เชื่อเขา 5 วันหลังจากทะเลาะกัน ผมเลยลองยืมเฟสบุ๊คเพื่อน เข้าไปดูรายชื่อเพื่อนในบัญชี facebook ของภรรยา เนื่องจากเธอบล๊อคทุกช่องทางติดต่อจากผม ปรากฎว่า บัญชี facebbok ของนายM ที่ภรรยาบล๊อคไปตั้งแต่ไปอยู่กับผม กลับมาเป็นเพื่อนในบัญชี facebook อีก ผมทักหานายMอีก รอบนี้ นายMบล๊อคผม เอาเฟสเพื่อนโทรนายMรับ แต่จะปฎิเสธเสมอ บอกว่าภรรยาผมเพิ่มเพื่อนเขาเอง แต่ไม่เคยติดต่อหรือคุยกัน (ซึ่งตอนนั้นนายMรู้ดีว่าภรรยาผมจดทะเบียนสมรสแล้ว) บังเอิญว่าผมกับนายM มีเพื่อนที่รู้จักร่วมกันในบัญชี facebook (เพื่อนร่วมกัน ขอใช้นามสมมุติว่า นายA) ผมจึงเล่าเรื่องราวให้นายAฟัง นายAจึงอาสาทักไปเจรจา เนื้อหาประมาณว่า ให้หยุดครอบครัวเขาพัง (ซึ่งตอนนั้นนายMไม่ทราบว่า นายAเป็นเพื่อนสนิทของผม) แต่ด้วยความที่นายMกับนายAก็สนิทกันพอสมควรในที่ทำงานเก่า เมื่อนายAทักไปตำหนิ ตักเตือน นายMเพราะเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน นายMสัญญามาว่าจะเลิกคุย และไม่ติดต่อกันกับภรรของผมอีก แต่ภรรยาผมก็เริ่มไม่กลัวว่าผมจะจับได้ เหมือนกับเปิดเผยแบบนัยๆ ยังคุยกันอยู่แต่ก็ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ขออนุญาติพูดแบบบ้านๆนะครับ การกระทำที่ภรรยากับชายชู้ทำแบบนี้ อย่าว่าแต่คนดีเขาไม่ทำเลยครับ คนชั่วก็ไม่นิยมคับ ผมจะหย่าให้ไม่เอาเรื่อง เธอก็ไม่ตอบอะไรกลับมาเลย เรื่องที่ผมต้องการปรึกษา กราบเรียนคุณทนายที่เคารพ ผมทั้งเจ็ปใจ เนื่องจากภรรยาผมเขารู้ว่าผมรักเขาไม่ว่าเขาจะทำอะไรผมก็ยอมให้เขาตลอดมา ผมอดทนถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี จากทั้งชายชู้และภรรยา 1เดือนแล้ว การกระทำของพวกเขาบ่งบอกให้เห็นชัดว่า เขาไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และภรรยาก็รู้ว่าผมรู้แต่เดือนนึงแล้ว ผมก็ได้แต่อ้อนวอนให้เขากลับ หรือถ้าภรรยาจะหย่าให้ผมก็ยินดีไม่เอาเรื่องครับ และทางภรรยาก็รู้ถึงสภาพการเงินทางบ้านผมดี ว่าผมไม่มีปัญญาเอาเรื่องพวกเขา เนื่องจากทางบ้านผมขัดสน จะเอาเงินที่ไหนทำคดี เรียนทนายที่เคารพ สภาพจิตใจของผม เนื่องจากอับอาย ถูกดูหมิ่นหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเป็นสามี ความเป็นลูกผู้ชาย ลูกสาวก็ไปพบไม่ได้ เนื่องจากทางภรรยาและผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยา ได้ทำการลงบันทึกถ้าผมเข้าไปที่บ้านจะถูกดำเนินคดี สภาพจิตใจผมทำให้แม่กับตาเริ่มเป็นกังวล เป็นห่วง แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เรียนทนายที่เคารพโปรดเมตตาแนะนำควรทำอย่างไรดี กราบขอบพระคุณอย่างสุดซึ้ง
คำตอบจากทนาย (1)
A: ถ้าไม่สามารถตกลงหย่ากันที่อำเภอโดยความยินยอมได้ แนะนำให้ฟ้องหย่า+ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้(หากมีหลักฐานว่าเป็นชู้กับภรรยา)
เดือน