Q: ฝากขายที่ดิน
สามี+ภรรยา ทำการขายฝากที่ดินที่เป็นชื่อของภรรยาโดยการทำสัญญา 700,000 บาท ให้แก่ผู้รับซื้อฝากคือนางA ผ่านนายหน้าจัดหาเงินคือนายB ต่อมาสามีได้ทำการกู้เงินเพิ่มโดยใช้ที่ดินเดิมเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมเป็นเงิน 1.6 ล้านบาท(รวมยอดเก่า) โดยที่ภรรยาผู้เป็นเจ้าของที่ดินไม่ทราบ สามีจ่ายเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ผ่านนาย B เป็นประจำทุกเดือน(นางAได้รับ+มีหลักฐานการโอน) จนกระทั่งสัญญาใกล้หมดอายุ นายBแจ้งว่าไม่ต้องไปต่อสัญญาเพราะจะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ให้จ่ายต่อไปเหมือนเดิมโดยนางAจะไม่ยึดที่ไป (สัญญาปากเปล่าไม่มีหลักฐาน) แต่สุดท้ายเมื่อสัญญาหมดอายุ ที่ดินตกเป็นของนางA และทราบต่อว่านางA ถูกนายB โกงเงิน(ซึ่งไม่เกี่ยวกับสัญญานี้) ทำให้นางA ต้องการขายที่ดินคืนในราคา 3.5 ล้านบาท แทนที่จะเป็น 1.6 ล้านตามที่รับมา เพื่อชดเชยเงินที่โดนนาย B โกง กรณีนี้ภรรยาที่ไม่ทราบเรื่องสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
คำตอบจากทนาย (1)
A: ตามข้อเท็จจริงที่ได้ให้มา ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสัญญาขายฝากคือสัญญาซื้อขาย ที่ให้สิทธิผู้ขายซื้อคืนได้ภายในกำหนดระยะเวลาและราคาที่ได้ตกลงกัน หมายความว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินโอนไปตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝากแล้ว กรณีไม่อาขซื้อคืนได้ภายในกำหนดจ้อตกลงที่ว่าจะไถ่คืนในราคาเท่าใดนั้น ถือว่าสิ้นไป ดังนั้นตามข้อเท็จจริงนี้ที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของท่านแล้วนะครับ ตั้งแต่ที่ภรรยากับสามีตกลงกันกู้ยอด 700,000 บาท ส่วนในการที่กู้ยืมมาเพิ่มโดยเอาที่ดินเดิมมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในทางกฎหมายก็คงไม่อาจทำได้เพราะที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของท่านแล้ว คงเป็นแต่เพียงการกู้ยืมเงินธรรมดาเพียงเท่านั้น คำถามที่ถามว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง คงจะแนะนำให้ไปขยายระยะเวลาขายฝากเพื่อหาเงินมาซื้อคืนให้ทันก่อนสิ้นระยะเวลาไถ่ถอน เพราะหากสิ้นระยะเวลาไถ่ถอนแล้ว ท่านคงจะไปขอซื้อคืนในราคาเดิมไม่ได้ (เว้นแต่เค้าจะยินยอม) ส่วนเรื่องที่สามีไปกู้มาเพิ่มแล้วเอาที่ดินที่ขายฝากไว้เดิมไปเป็นหลักประกันนั้น ต้องดูข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าได้ไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ที่ดินหรือไม่ หากไม่จดทะเบียนขายฝากจะสมบูรณ์เพียงแค่ 700,000 บาทเท่านั้น ส่วนที่สามีกู้ยืมเพิ่มมาจะเป็นกู้ยืมธรรมดา ถ้าไม่มีสัญญากู้ยืมก็ฟ้องคดีต่อศาลไม่ได้ครับ
เดือน