Q: ผู้เช่าติดค้างเงินค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ติดตามอย่างไร
สวัสดีคะ รบกวนสอบถาม กรณีผู้เช่า ติดหนี้ค่าเช่า ตั้งแต่เดือน เมษายน จนถึง ตุลาคม ขนของหนีไปเมื่อต้น พ.ย. 66 โทรไปให้คนอื่นรับแทนและไม่ติดต่อกลับจะดำเนินการอย่างไรได้บ้างค่ะ 1 มีเอกสารสัญญาเช่าเป็นชื่อลูก แต่ให้แม่เซ็นแทน ( คนละนามสกุล) สัญญาเช่าจะสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566 2 ติดตามทวงถามทางไลน์ อ่านแต่ไม่ตอบ และลบออกจากการเป็นเพื่อน 3 เคยส่งจดหมายติดตามทวงถามไปและมีการติดต่อกลับขอผ่อนชำระ แต่ไม่ชำระ หลายครั้ง 4 ย้ายของออกจากบ้านโดยไม่แจ้ง 5 ติดต่อครั้งสุดท้าย 30 พ.ย. 66 เจรจาขอให้ผู้เช่าชำระค่าน้ำค่าไฟให้ โดยทางผู้ให้เช่าไม่คิดค่าเช่าที่ค้างไว้ก็ได้ แต่ทางผู้เช่าให้ชำระไปก่อนแล้วจะผ่อนให้ 6 ทางผู้ให้เช่าจึงขอให้เซ็นเอกสารสัญญารับสภาพหนี้เฉพาะค่าน้ำ ไฟ แต่ผู้เช่าไม่ยินยอมเซ็น 7 ผู้เช่าย้านสถานที่อยู่ มิสามารถติดตามส่งเอกสารได้ โทรติดต่อไม่ได้บอกว่าโทรศัพท์พัง แจ้งให้เราติดต่อผ่านเบอร์ ลูก หลานแทน กรณีแบบนั้ต้องทำยังไงค่ะ เราส่ง SMS เข้าไปในเบอร์ลูกหลาน จะใช้เป็นข้อมูลเพื่อดำเนินการอะไรได้บ้างค่ะ 8 ทางเราสามารถติดตามไปที่อยู่ใหม่ของเค้าได้มั๊ยค่ะ ถ้าเราทราบ และหากเราไม่ทราบที่อยู่ใหม่จะต้องทำยังไงค่ะ ขอบคุณค่ะ
คำตอบจากทนาย (1)
A: การดำเนินการกับผู้เช่ากรณีค้างชำระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และหลบหนี จากข้อมูลที่ท่านให้มา สรุปได้ว่าผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นเวลาหลายเดือน ขนของหนีไปโดยไม่แจ้งให้ทราบ และพยายามบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ ประเด็นปัญหาสำคัญ สัญญาเช่าทำกับบุคคลหนึ่ง แต่ให้บุคคลอื่นลงนามแทน ผู้เช่าไม่ยอมชำระหนี้และหลบหนี ผู้ให้เช่าไม่ทราบที่อยู่ปัจจุบันของผู้เช่า กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยสัญญาเช่าทรัพย์สิน มาตรา 538 บัญญัติว่า "สัญญาเช่าทรัพย์สินนั้น ท่านว่าจะทำเป็นหนังสือหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าสัญญาเช่าทรัพย์สินมีกำหนดเวลาเกินกว่าสามปีขึ้นไป ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบเป็นสำคัญ หรือได้ทำเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบเป็นสำคัญแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญานั้นๆ ท่านว่าให้มีกำหนดเวลาเพียงสามปี" มาตรา 543 บัญญัติถึงหน้าที่ของผู้เช่า เช่น ต้องใช้ทรัพย์สินนั้นด้วยความระมัดระวัง ต้องชำระค่าเช่า ต้องคืนทรัพย์สินเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง มาตรา 569 บัญญัติว่า "ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าเมื่อถึงกำหนด ผู้ให้เช่าชอบที่จะบอกเลิกสัญญาและไล่ผู้เช่าออกจากทรัพย์สินได้" ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยการฟ้องคดี พระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 (ถ้าสถานที่เช่าเข้าข่ายเป็นหอพัก) การวิเคราะห์ สัญญาเช่า แม้สัญญาเช่าจะทำในนามบุตรของท่าน แต่ให้มารดาลงนามแทน สัญญาดังกล่าวอาจตกเป็นโมฆียะได้ เนื่องจากมารดาไม่มีอำนาจกระทำการแทนบุตร เว้นแต่จะได้รับมอบอำนาจจากบุตรอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ท่านยังสามารถฟ้องร้องบังคับคดีเอาแก่ "มารดา" ในฐานะผู้ลงนามในสัญญาเช่าและเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินได้ การติดตามทวงถาม การติดตามทวงถามทางไลน์ จดหมาย หรือ SMS ถือเป็นหลักฐานแสดงเจตนาในการทวงถามหนี้ได้ การบอกเลิกสัญญา ท่านสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าได้ เนื่องจากผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่า การบอกเลิกสัญญาต้องทำเป็นหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้เช่า ณ ภูมิลำเนาหรือที่อยู่ตามสัญญาเช่า การฟ้องคดี ท่านสามารถฟ้องคดีผู้เช่าเป็นคดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาเช่า ได้แก่ ค่าเช่าค้างชำระ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเสียหายอื่นๆ (ถ้ามี) การส่งเอกสารทาง SMS SMS ที่ท่านส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์ของบุคคลอื่น อาจใช้เป็นหลักฐานประกอบการฟ้องคดีได้ โดยต้องพิสูจน์ว่า SMS ดังกล่าวส่งไปถึงผู้เช่าจริง การติดตามที่อยู่ใหม่ กรณีทราบที่อยู่ใหม่ ท่านสามารถส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าและเอกสารฟ้องคดีไปยังที่อยู่ใหม่ได้ กรณีไม่ทราบที่อยู่ใหม่ ท่านอาจสืบหาที่อยู่ใหม่ได้จากทะเบียนราษฎร หรือขอให้ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานราชการ เช่น กรมการปกครอง หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยข้อมูลที่อยู่ของผู้เช่า ฎีกาที่เป็นประโยชน์ ฎีกาที่ 618/2523 “การที่ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่า ย่อมเป็นการบอกกล่าวให้ผู้เช่าออกจากทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าจะอ้างว่ายังไม่ย้ายออกจากทรัพย์สินที่เช่าไม่ได้” ฎีกาที่ 3614/2537 “เมื่อผู้เช่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดเวลา ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้”
เดือน