Q: โดนฟ้องยักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์ นายจ้าง เเละปลอมแปลงเอกสาร

A: หากไม่ได้ทำก็ต้องรวบรวมหลักฐาน ให้การและต่อสู้คดีครับ แนะนำว่ารีบนำรายละเอียดเข้าปรึกษาทนายความเพื่อวางรูปคดีต่อไปครับ

A: หากนายจ้างกล่าวหาว่าลูกจ้างยักยอก ลักทรัพย์ หรือปลอมเอกสาร แต่ไม่มีพยานหลักฐานว่าลูกจ้าง “ครอบครองทรัพย์โดยชอบแล้วเบียดบัง” ตาม ป.อ. ม.352 หรือ “ลักเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป” ตาม ม.334 และไม่มีพฤติการณ์ปลอมเอกสารตาม ม.264–265 ศาลฎีกาวางหลักว่า ภาระพิสูจน์อยู่ที่ผู้กล่าวหา (ฎีกา 7095/2559, 3408/2546, 1649/2552) หากนายจ้างมีแค่ข้อสงสัยทั่วไป เช่น การทำงานผิดพลาด การขาดเอกสาร หรือการเก็บเอกสารไม่เป็นระบบ ไม่พอให้เอาผิดอาญา และหากแจ้งความโดยปราศจากมูลอาจเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จ ม.172 หรือใส่ความ ม.137 ได้ ลูกจ้างมีสิทธิให้การปฏิเสธทั้งหมด ขอให้พนักงานสอบสวนพิสูจน์พยานหลักฐานฝ่ายนายจ้าง และยื่นหลักฐานการทำงาน การส่งมอบงาน การไม่แตะต้องทรัพย์ร่วม รวมถึงพยานบุคคล เพื่อหักล้างข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ครับ

A: เบื้องต้นนะครับ ประเทศไทยใช้ระบบการพิจารณาคดีแบบระบบกล่าวหาครับ เมื่อฝ่ายนั้นกล่าวอ้างมา เราก็มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาหักล้าง หากมีข้อพิรุธหรือข้อสงสัย ศาลจะพิพากษายกฟ้อง และหากข้อหาที่นายจ้างร้องทุกข์มาหรือฟ้องมาเป็นความเท็จ นายจ้างจะมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ หรือเบิกความเท็จ แล้วแต่ข้อเท็จจริงครับ