Q: ต้องการติดตามทวงหนี้ ฟ้องร้อง บังคับคดี อายัดทรัพย์ อายัดบัญชี และดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย

สวัสดีค่ะ ต้องการสอบถามว่า การติดตามทวงหนี้ ฟ้องร้อง บังคับคดี อายัดทรัพย์ อายัดบัญชี และดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย สำหรับลูกหนี้ที่เป็นบุคคลสัญชาติไทยซึ่งพำนักในประเทศเกาหลีใต้ สามารถดำเนินการได้หรือไม่ บริษัทของเราให้บริการแลกเปลี่ยนเงินและโอนเงินจากเกาหลีไปประเทศไทย ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้ดำเนินการโอนเงินภายในประเทศหลายครั้งผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งที่ยอดเงินคงเหลือในกระเป๋าเงิน (Wallet) เท่ากับ 0 วอน และได้รับประโยชน์โดยมิชอบ โดยระบบจะปรับยอดเงินเข้ากระเป๋าเงินของลูกค้าจากเงินของบริษัทแบบอัตโนมัติเมื่อทำรายการโอน ตัวอย่างเช่น เมื่อทำรายการโอน 2,000,000 วอน ระบบจะเติมเงินจำนวนเดียวกันจากเงินบริษัทเข้ากระเป๋าเงินของลูกค้า หลังจากนั้นลูกค้าจะถอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวในเกาหลี พฤติกรรมนี้ถูกทำซ้ำหลายครั้งในรูปแบบเดียวกัน และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนภายในวงเงินโอนรายวัน มีผู้กระทำผิดหลายราย ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินคดีอาญาในประเทศเกาหลีแล้ว และมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศรวมถึงหมายจับ แต่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ ดังนั้น บริษัทต้องการสอบถามว่า สามารถดำเนินมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติมในฐานะอาชญากรรมข้ามชาติได้หรือไม่ หรือสามารถดำเนินกระบวนการทางแพ่งและอาญาในประเทศไทยเพิ่มเติมได้หรือไม่

เผยแพร่เมื่อ 2025-12-09

คำตอบจากทนาย (1)

A: ท่านสามารถดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาในประเทศไทยได้ แม้การกระทำความผิดจะเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้ครับ สำหรับการดำเนินคดีอาญา เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลสัญชาติไทย กฎหมายไทย (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8) เปิดช่องให้สามารถลงโทษคนไทยที่กระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือฉ้อโกงในต่างประเทศได้ หากผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ดังนั้น ท่านสามารถนำพยานหลักฐานที่มีอยู่มาฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลไทยได้โดยตรง ซึ่งหากพฤติการณ์มีความซับซ้อนหรือเกี่ยวเนื่องกันระหว่างประเทศ อัยการสูงสุดจะเป็นผู้มีอำนาจในการสอบสวนร่วมด้วย (ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 20) ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักในการติดตามตัวและกดดันจำเลยได้มากกว่าการรอหมายจับจากเกาหลีเพียงอย่างเดียว ในส่วนของการบังคับคดีทางแพ่ง เพื่อยึดทรัพย์หรืออายัดบัญชีในประเทศไทย ท่าน ไม่สามารถ นำคำสั่งศาลหรือหมายจับของเกาหลีมาบังคับยึดทรัพย์ในไทยได้ทันที เนื่องจากประเทศไทยและเกาหลีใต้ไม่มีสนธิสัญญาว่าด้วยการบังคับคดีระหว่างกัน ท่านจำเป็นต้อง ยื่นฟ้องคดีแพ่งในประเทศไทยใหม่ โดยใช้มูลฟ้องจากการละเมิดหรือผิดสัญญาที่เกิดขึ้น และใช้หลักฐานจากเกาหลีประกอบสำนวน เมื่อศาลไทยมีคำพิพากษาแล้ว ท่านจึงจะสามารถตั้งเรื่องที่กรมบังคับคดีเพื่อสืบทรัพย์ อายัดบัญชีธนาคาร และยึดทรัพย์สินของคู่กรณีที่อยู่ในประเทศไทยมาชดใช้หนี้ได้ สรุปคือ การดำเนินการในประเทศไทยทำได้และควรทำควบคู่ไปกับคดีในเกาหลี เพื่อตัดวงจรการเงินและบีบให้ผู้กระทำผิดต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมครับ

เผยแพร่เมื่อ: 2025-12-09

คำถามที่คุณอาจสนใจs

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน