Q: ต้องการประเมินว่า การ ละเมิน ข้อตกลงรักษาความลับและการไม่แทรกแซงทางธุรกิจ หากถูกเรียกค่าเสียหายจะมีมูลค่าประมาณเท่าใด
เซ็นสัญญา ข้อตกลงรักษาความลับและการไม่แทรกแซงทางธุรกิจ ไปกับบ. A ว่าจะไม่ไปทำงานกับ บ.B แต่ปัจจุบันต้องการไปทำกับบ.B อย่างไรก็ตามในสัญญา ไม่ได้เขียนว่าหากละเมิดสัญญาจะมีผลตามมาอย่างไน จึงอยากประเมินว่า 1. หากถูกฟ้องกลับ บ.A สามารถเรียกค่าเสียหาได้เท่าใด 2. บ.A ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใดในการฟ้องร้อง มากเกินกว่าที่จะคุ้มกับการฟ้องร้องหรือไม่
คำตอบจากทนาย (1)
A: หากสัญญาที่คุณเซ็นไว้ ไม่ได้ระบุ "เบี้ยปรับ" (จำนวนเงินค่าปรับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหากผิดสัญญา) ถือเป็นข้อได้เปรียบของคุณ เพราะหากบริษัท A ตัดสินใจฟ้องร้อง จะสามารถเรียกร้องได้เพียง "ค่าเสียหายตามจริง" เท่านั้น ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยากมาก บริษัท A มีภาระต้องนำสืบให้ศาลเห็นเป็นตัวเลขชัดเจนว่า การที่คุณย้ายไปบริษัท B ทำให้ยอดขายของบริษัท A ตกไปกี่บาท หรือทำให้บริษัท B แย่งลูกค้าไปได้มูลค่าเท่าไหร่ หากคุณเป็นเพียงพนักงานระดับปฏิบัติการที่ไม่ได้กุมสูตรลับ ฐานข้อมูลลูกค้าสำคัญ หรือความลับทางการค้าที่เป็นหัวใจของธุรกิจ ศาลมักจะมองว่าความเสียหายนั้นเป็นเพียงการคาดเดาหรือเป็นนามธรรม ทำให้มูลค่าค่าเสียหายที่ศาลจะพิพากษาให้อาจจะต่ำมาก หรือศาลอาจยกฟ้องในส่วนค่าเสียหายหากโจทก์พิสูจน์ตัวเลขไม่ได้ สำหรับประเด็นความคุ้มค่าในการฟ้องร้อง บริษัท A ต้องเสียค่าใช้จ่ายเบื้องต้นประกอบด้วยค่าธรรมเนียมศาล (ร้อยละ 2 ของยอดที่ฟ้อง) และค่าจ้างทนายความซึ่งโดยปกติเริ่มต้นที่หลักหมื่นกลางๆ ไปจนถึงหลักแสนบาท รวมถึงต้องเสียเวลาในการสู้คดีนาน 1-2 ปี หากประเมินแล้วว่าคุณไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหายเป็นเม็ดเงินมหาศาล การฟ้องร้องมักจะเข้าข่าย "ไม่คุ้มเสีย" ในทางปฏิบัติบริษัทส่วนใหญ่จึงมักทำเพียงให้ทนายส่งหนังสือโนติส (Notice) เพื่อข่มขู่หรือป้องปรามไม่ให้พนักงานคนอื่นทำตามมากกว่าที่จะฟ้องร้องจริงๆ เว้นแต่กรณีเดียวคือคุณเป็นผู้บริหารระดับสูงหรือนำ "ความลับทางการค้า" ออกไปใช้จนส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเขาอย่างรุนแรงครับ
เดือน




