Q: นายจ้างแจ้งความลักทรัพย์
ลูกสาวทำงานร้านอาหารบุ๊ฟเฟ่ตำแหน่งหัวหน้าสาขาจนถึงวันที่30พฤศจิกายน2568ทำหน้าที่จนถึงวันสุดท้ายก่อนหน้าที่จะปิดร้านประมาณวันที่27นายจ้างบอกว่าลูกสาวทุจริตด้วยการย้อนดูกล้องเห็นลูกวาวหยิบเงินในลิ้นชักร้านใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกไปข้างนอกเข้ามาแล้วถือถุงกางเกงเข้ามาด้วยนายจ้างสงสัยว่าลูกสาวทุจริตแต่ให้ลูกสาวทำงานจนถึงวันสุดท้ายและยังออกใบผ่านงานให้พอถึงวันปิดร้านนายจ้างไม่ได้จ่ายค่าชดเชยก็เลยพาลูกสาวไปร้องคุ้มครองสวัสดิการแรงงานพอนายจ้างทราบว่าลูกสาวไปร้องคุ้มครองสวัสดิการแรงงานเค้าก็บอกว่าจะไปย้อนดูกล้องและบิลใบเสร็จย้อนหลังหาความผิดว่าลูกสาวทุจริตอะไรบ้างนายจ้างไปแจ้งความเมื่อวันที่8ธันวาคม2568แต่ไม่ได้ลงรายเอียดว่าลูกสาวหยิบเงินไปกี่บาทเอาไปซื้ออะไร
คำตอบจากทนาย (3)
A: เมื่อลูกสาวทำงานจนถึงวันสุดท้ายและร้านปิดกิจการ นายจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าลูกสาวกระทำผิดร้ายแรง เช่น ลักทรัพย์ของนายจ้างนายจ้างออกใบผ่านงานให้ ถือเป็นหลักฐานว่านายจ้างยอมรับการทำงานจนถึงวันสุดท้าย และไม่ได้เลิกจ้างด้วยเหตุทุจริตในทันที ฝ่ายนายจ้างต้องพิสูจน์ว่ามีการลักทรัพย์จริง ไม่ใช่เพียง สงสัยหรือเห็นจากกล้อง โดยไม่มีรายละเอียดจำนวนเงินหรือผลกระทบ
A: 1.ในขณะเลิกจ้างนายจ้างไม่ได้ระบุบเหตุผลแห่งการเลิกจ้างว่าลักทรัพย์ นายจ้างจะยกขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้ครับ 2.แต่ในส่วนคดีอาญาก็ต้องไปว่ากล่าวกันต่างหาก
A: 1. ในกรณีที่เลิกจ้างเนื่องจากปิดสาขาโดยไม่เคยพูดถึงการทุจริต นายจ้างจะอ้างว่าเลิกจ้างเนื่องจากลูกจ้างทุจริตเพื่อปฏิเสธการจ่ายค่าชดเชยในภายหลังไม่ได้ 2. หากมีการกระทำผิดจริงก็จะเป็นคดีคนละส่วนกันครับ
เดือน
ติดต่อเรา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่
