Q: การฟ้องหย่า

เหตุการณ์ที่เล่านี้คือช่วงที่ตัวดิฉันอยู่ในสถานะว่างงานและหางานทำส่วนสามีอยู่ในวัยเกษียร แต่สามีไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้ดีเท่าที่ควรคือ ไม่มีความรับผิดชอบต่อภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นภายในครอบครัว เมื่อมีเงินมักจะอ้างรายจ่ายทางด้านชำะหนี้ที่หยิบยืมในส่วนที่ไม่จำเป็นมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ อุปโภคบริโภคแทบจะไม่ดีเท่าที่ควร แต่จะเอาไปสังสรรค์ส่วนใหญ่ จนทำให้ครอบครัวตนได้รับผลกระทบเป็นเหตุให้ครอบครัวแตกแยก ลูกก็ต้องเอาไปฝากเลี้ยงดูที่บ้านภรรยาเก่าของสามี ส่วนตัวดิฉันสามีก็พาใช้ชีวิตเหมือนคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย ไปขออาศัยบ้านเพื่อนสามีบ้าง หากมีเงินก็อาศัยค้างคืนที่โรงแรม เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3-4 เดือน ในอาชีพรับจ้างรายวันของดิฉันแต่ก็ไม่พอจุนเจือ ส่วนสามีก็เริ่มทำงานใหม่อีกครั้งในสายงานรปภ. แต่เมื่อได้รับเงินเดือนก็ไม่คิดหาที่อยู่อาศัยเลยสักครั้ง อ้างแต่ว่าเงินไม่พอใช้หนี้ที่ยืมมา เมื่อแบ่งใช้หนี้ไปก็เหลือไม่ถึง 3000 ทุกครั้ง ทำให้ฉันรู้สึกท้อและมองไม่เห็นหนทางเมื่ออีกฝ่ายเหมือนไม่อยากร่วมสร้างอนาคต ทั้งมีคำพูดดูถูกเหยียดหยามเวลามีเงิน จะเริ่มหาเรื่องด่าว่าตนและออกไปที่อื่นทุกครั้ง รวมทั้งทำร้ายร่างกายดิฉันในที่ทำงานของตนด้วยการขี่รถเหยียบดิฉันจนมีรอยแผลของท่อไอเสีย โดยไม่ใยดีดิฉันเลย เหตุการณ์วันนั้นดิฉันแค่จะไปเอารถที่ทำงานเนื่องจากจำเป็นต้องใช้แต่สามีไม่ให้และคิดว่าดิฉันจะนำไปใช้เพื่อไปหาใคร จึงเกิดการยื้อแย่งกัน เพราะสามีกำลังจะขี่หนีดิฉันออกจากที่ทำงาน ดิฉันจึงฉุดรั้งล้อหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้สามีไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปด้วยการขี่เหยียบดิฉันต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมงานและคนงานบริเวณที่อาศัยอยู่ก็เห็นจึงทำให้ดิฉันรู้สึกอับอายมาก เมื่อดิฉันตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านมารดา มารดาดิฉันโกรธและเกลียดสามีมาก และไม่ให้ดิฉันติดต่อกับสามีเพื่อให้ตัวดิฉันสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แต่สามีดิฉันก็คอยราวีไม่เลิกรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็เหมือนทำให้ดิฉันอับอายไปหมด จนไม่สามารถทำอะไร คอยขัดขวางทุกอย่างเมื่อเห็นว่าดิฉันกำลังจะไปได้ดี แต่ตนเองก็ไม่เคยมาส่งดสรยเลี้ยงดู ดิฉันให้โอกาศไม่รู้กี่ครั้งแต่เขาก็ไม่เคยทำได้และคิดสำนึกเลยสักนิด ทำดีได้ไม่กี่วัน แต่พอได้เงินทีไรก็เป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง ดิฉันทำงานก็หาเรื่องด่าประจานไม่เกรงใจในที่ทำงานของดิฉันไม่รู้กาลเทศะ ทำให้ดิฉันอับอายอยู่เรื่อยๆ เพื่อนร่วมงานเริ่มไม่มีใครอยากคบหา หัวหน้างานก็เหมือนบีบดิฉันให้ทำงานมากขึ้น จนทำไม่ทัน ดิฉันอึดอัดและอับอายจึงไม่สามารถทำงานได้จึงตัดสินใจลาออก แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้ถูกต้อง เงินเดือนเดือนแรกที่ออก ดิฉันทำได้ 11 วัน เมื่อได้เงินมาดิฉันก็นำมาวางมัดจำที่อยู่จนเหลือติดตัวแค่ 500 ห้องดิฉันอยู่เพียงคนเดียว แต่สามีก็พยายามจะเข้ามาอยู่ด้วยเพราะอ้างว่าเป็นสามีและมาร้องเรียกบริเวณหอพักอยู่บ่อยครั้ง เมื่อดิฉันไม่ให้เข้าหรือให้เข้าก็ชอบพูดจาเสียงดังและหาเรื่องพูดว่าดิฉันในทางไม่ดีเหมือนเดิม และอ้างว่าดิฉันมีชายอื่น ดิฉันได้รับความเดือดร้อนจากสามีคนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจ ยังไม่รวมการที่สามีเป็นโรคติดต่อร้ายแรงอยู่อีกด้วย จึงต้องการจะฟ้องหย่าค่ะ

เผยแพร่เมื่อ 2024-03-26

คำตอบจากทนาย (1)

A: อันดับแรก ท่านสามารถไปแจ้งความสามีในข้อหา ทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่นซึ่งหน้า หมิ่นประมาท นำหลักฐานหรือพยานต่างๆไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ สอง ท่านสามารถนำเหตุการณ์ต่างๆนี้ ใบแจ้งความ และหลักฐานว่าสามีเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ไปติดต่อที่ สำนักงานอัยการประจำจังหวัด หรือ ยื่นคำขอรับเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจ้างทนายความ ไปที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือ สำนักงานยุติธรรมประจำจังหวัดท่านค่ะ

เผยแพร่เมื่อ: 2024-03-26

คำถามที่คุณอาจสนใจ

Loading...
ทนายที่ให้คำปรึกษามากที่สุด
เดือน
cta
ปรึกษาทนายได้ตลอด 24 ชม.