Q: เจ้าหนี้โพสประจานและให้บิดามาข่มขู่พร้อมทั้งยังเอาเอกสารที่เราส่งใหเขาไปส่งให้บุคคลที่ 3 โดยเราไม่ยินยอมและไม่ได้รับรู้ค่ะ
เราเป็นหนี้บุคลลหนึ่งอยู่ จำนวน 40,350 บาทถ้วน มีรายละเอียดการยืมทุกครั้งที่ทำการยืม (มีหลักฐานแชท) และได้มีแชทที่คุยตกลงกันเรื่องเกี่ยวกับการผ่อนชำระว่าต้องผ่อนชำระเท่าไหร่ อย่างไง (มีหลักฐานแชท) ทางเราขอเลื่อนเวลาส่งเป็นเวลาสามเดือนและจะหามาเพื่อส่งต่อในห้ในช่วงพฤษภาคมเพราะทางเราค่อนข้างจะลำบากเพราะได้งานใหม่ เจ้าหนี้ตกลงและรับรู้เรื่องการผ่อน (มีหลักฐานแชท) ต่อมาเจ้าหนี้ต้องการเงินเป็นก้อน แต่ทางเราไม่มีให้เจ้าหนี้ได้ทำการให้เราไปหายืมต่างๆมา และทักแชทมาด่าทอเรา เราได้ส่งแชทที่มีข้อมูลส่วนตัว (ที่อยู่ บัตรประชาชน) ให้เจ้าหนี้ดูว่าได้ไปทำการกู้มาแต่ไม่สำเร็จ เจ้าหนี้ได้ทำการแท็กเรามาในเฟสบุ๊ค โพสประจานมีรูปภาพเราและแชทส่วนตัวที่คุยกันลงเฟส และทางเจ้าหนี้ได้ส่งแชทที่มีข้อมูลส่วนตัวของเราไปให้ผู้ปกครอง ผู้ปกครองได้ทำการติดต่อเราโดยพยายามแอดไลน์และโทรหาเรา ได้มีการข่มขู่ผ่านทางข้อความ (มีหลักฐานแชท) และโทรหาให้เราหาเงินมาคืนให้ภายใน 7 วัน แต่เราได้แจ้งไปแล้วว่าไม่สามารถหาได้ ได้มีการข่มขู่ว่าเขามีเพื่อนและจะนำเพื่อนมาที่อยู่และที่ทำงานเรา ตอนนี้ก็ยังทักแชทมาเรื่อยๆ ไม่ทราบว่าสามารถแจ้งความได้ไหมคะ (เราแจ้งความออนไลน์ไปแล้วแต่ยังไม่ติดต่อมาค่ะ) เรากลัวว่สเขาจะมาทำให้การงานเสียหายและไม่มีเงินส่งเขาค่ะ.
คำตอบจากทนาย (2)
A: ประเด็นการโพสประจาน เจ้าหนี้ได้ทำการแท็กเรามาในเฟสบุ๊ค โพสประจานมีรูปภาพเราและแชทส่วนตัวที่คุยกันลงเฟส และทางเจ้าหนี้ได้ส่งแชทที่มีข้อมูลส่วนตัวของเราไปให้ผู้ปกครอง ถือเป็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นหนี้ของลูกหนี้ซึ่งการกระทำเช่นนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้มาตรา 11(3) ที่บอกว่า ,"ห้ามผู้ทวงถามกนี้แจ้งหรือเปิดเปยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงหนี้" ดารที่เจ้าหนี้ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าหนี้อาจโดยข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ดังนั้นผู้ตั้งคำถามสามารถนำพยานหลักฐานไปแจ้งความต่อเจ้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุได้ค่ะ ในประเด็นการถูกข่มขู่ การโทรทวงหนี้ตั้งแต่เช้า กลางวัน และเย็น ไม่สามารถทำได้ สามารถทวงหนี้ได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น หากถูกทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ผู้ตั้งคำถามสามารถร้องเรียน หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน โทร.1213 โดยกฎหมายกำหนดไว้ว่าการติดตามทวงหนี้ ซึ่งมีลักษณะการพูดจาข่มขู่ ดูหมิ่น การเปิดเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ การใช้ความรุนแรงทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนผู้ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาท และ การเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และอาจมีการตรวจสอบพบทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ก็อาจมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
A: การที่โพสต์ประจานบุคคลอื่นลงในหน้า application LINE หรือ facebook อันเป็นการทำให้บุคคลอื่นได้รับความละอายเสียหายทั้งทางด้านจิตใจแม้ข้อความนั้นจะเป็นเรื่องจริงก็ตามก็ถือว่าเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาส่วนนี้คุณต้องไปแจ้งความดำเนินคดีในสถานีตำรวจท้องที่ที่คุณได้ทราบเรื่องว่ามีการโพสต์ประจานโดยคุณจะต้องแคปหน้าจอที่เจ้าหนี้รายดังกล่าวโพสต์เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความเอาผิดส่วนเรื่องการผ่อนชำระหนี้หากเราไม่สามารถชำระหนี้ให้เขาได้เราก็ให้เขาฟ้องเป็นคดีแล้วเราค่อยไปไกล่เกลี่ยในชั้นศาลอันจะทำให้เรามีหลักฐานในการประนีประนอมกันทำให้เขาไม่สามารถมาบังคับให้เราชำระหนี้เป็นเงินก้อนได้ซึ่งในส่วนนี้ขั้นตอนแรกคุณต้องไปแจ้งความณสถานีตำรวจที่คุณทราบเรื่องการโพสต์ประจานพร้อมแคปหลักฐานต่างๆไปเพื่อแจ้งความดำเนินคดีในฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและต้องแจ้งเมื่อทราบภายใน 3 เดือนหากเขายังไม่ลบโพสต์แล้วคุณไปพบข้อความดังกล่าวไม่ว่าที่ใดซึ่งนอกพื้นที่ดังกล่าวคุณก็สามารถนำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งความได้อีกเนื่องจากเขายังไม่ลบโพสต์ออกไปทำให้คุณได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง
เดือน