Q: ได้รับหมายเรียกสำเนาคำฟ้องจากศาลคดีผู้บริโภค
วันที่ 3 เมษายน 2567 โจทก์ฟ้องลูกหนี้และผู้ค้ำประกันต่อศาล แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ค้ำประกันตายเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ทายาทรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทน และศาลมีคำสั่งให้นัดไกล่เกลี่ย สืบพยาน ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ต้องทำอย่างไรบ้างครับ ทายาทผู้ค้ำประกันต้องไปศาลในวันนัดนั้นไหมหรือต้องรอให้โจทก์ฟ้องทายาทผู้ค้ำประกันเป็นคดีใหม่ ถ้าผู้ค้ำประกันไม่มีทรัพย์สินเลย ทายาทผู้ค้ำประกันถ้าถูกฟ้องในอนาคตต้องทำเช่นไรครับ
คำตอบจากทนาย (3)
A: ไม่ต้องไปตามที่ศาลนัดครับ เพราะคุณไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน ในเมื่อผู้ค้ำประกันตายแล้วรวมทั้งผู้ค้ำประกันก็ไม่มีทรัพย์มรดก กฎหมายวางหลักไว้ว่าความรับผิดไม่เกินทรัพย์มรดก เมื่อไม่มีทรัพย์มรดกให้ยึดหรืออายัด ก็ไม่จำเป็นต้องไปครับ เพราะหมายศาลก็ชี้เฉพาะผู้ค้ำประกัน ดังนั้นคุณจึงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปหรือต้องไปรับผิดชอบใดๆที่ไม่ใช่หน้าที่ของคุณครับ รวมทั้งเจ้าหนี้ก็ไม่สามารถ มาฟ้องคุณให้รับผิดชอบด้วย เพราะผู้ตายไม่มีทรัพย์มรดกให้ยึดหรืออายัดครับ รวมทั้งคุณก็ไม่ได้รับมรดกจากผู้ตายด้วย
A: หากผู้ค้ำเสียชีวิต ทายาทของผู้ค้ำจะต้องรับชดใช้หนี้แทนผู้ค้ำประกัน แต่ทายาทจะต้องรับผิดเพียงเท่าที่ได้รับมรดกจากผู้ค้ำประกันเท่านั้น หากผู้ค้ำประกันไม่มีทรัพย์สินอะไร และทายาทไม่ได้รับมรดกอะไรก็ไม่ต้องรับผิดค่ะ ทนายแนะนำว่าให้มอบอำนาจให้ทนายไปขึ้นศาลเพื่อไปแจ้งแก่ศาลว่าผู้ค้ำประกันเสียชีวิตแล้วค่ะ
A: ปกติเมื่อผู้ค้ำประกันเสียชีวิต โจทก์หรือเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลเรียกผู้จัดการมรดกหรือผู้ที่ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายเข้ามาเป็นคู่ความแทนผู้ตายในคดีครับ ดังนั้นคุณจะไปในวันที่ 13 พฤษภานี้เลยก็ได้ไปแจ้งให้ศาลทราบว่าผู้ค้ำประกันเสียชีวิตแล้ว หรือจะไม่ไปแล้วรอหมายเรียกอีกทีก็ได้ครับ
เดือน




