Q: มีหมายเรียกมาต้องหาว่าทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์แต่หนูไม่ได้ทำร้ยทรัพย์สินเค้าหรือร่วมกันทำร้ายเหตุเกิดจากการคุยและมีปากเสียงเลยเกิดโมโหเพลอไปทำร้ายเค้าก่อนทางนั้นแจ้งความหมายเรียกมาตามมาตรา52หนูต้องทำยังไงต่อคะ
ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มคนพวกนี้รวมก้อ10คนทำร้ายร่างกายหนูและหนูได้แจ้งดำเนินคดีแต่แล้วเรื่องก้อเงียบไปหลังจากนั้นเมื่อำหร่ที่บังเอิญไปเจอคนกลุมนี้หนูก้อจะเจอทำร้ายทุกรอบรวมแล้วก้อร่วมห้าครั้งได้จนวันที่เกิดเหตุแฟนหนูทนไม่ไหววันที่เกิด้หตุเจตนาคือเข้าไปคุยเพื่อให้จบเรื่องราวแต่ด้วยท่าทางสีหน้าและคำพูดเลยทำให้เกิดมีอารมเพลอไปทำร้ายเค้า1ทีและเค้าก้อโต้กับทันทีและหยิบข้าวของสินทรัพย์ของเค้าเองมาทุ่มทำร้ายแฟนหนูและเค้าหันมาเห็นหนูที่ยืนอยุ่ข้างๆรถก้อเอาเก้าอีเอาของในร้านเค้าทุ่มตีทำร้ายหนูและแฟนหนูกับหนูก้อพยามถอยออกและขึ้นรถขับออกไปแต่ในขณะที่หนูขึ้นรถเค้าก้อวิ่งมาเอาเก้าอี้ฟาดและจิกหัวหนูเพื่อให้ตกรถแต่หนูพยายามยกมือกันไว้และขับรถออกไปแล้วทางนั้นก้อได้ไปแจ้งความหาว่าพวกหนูตั้งใจไปพังร้านเค้าซึ่งเครียกันวันนั้นที่โรงพักแล้วแต่เหมือนเค้าจะไม่จบผ่านไปวันรุ่งขึ้นพวกเค้าขับรถมอไซค์มาสามคันคันละ2คนทุกคนทุกคันถือมีดอีดาบยาวๆจะฟฟันหนูหนูเลยวิ่งเข้าบ้านพวกเค้าก้อไม่ไปถือมือง้างทำท่าจะฟันและก้อใช้มีดชี้หน้ามาทางหนูจนหนูได้ทำการแจ้ง191พวกเค้าถึงขับกัยออกไปหลังจากนั้นก้อมีหมายเรียกมาที่บ้านคะหนูจะต้องทำยังงัยคะ
คำตอบจากทนาย (2)
A: ไปตามหมายเรียกครับ แล้วก็ให้การไปตามข้อเท็จจริง หากให้ความร่วมมือพนักงานสอบสวนน่าจะให้ประกันตัวอยู่ แล้วก็ปล่อยให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน
A: ไปตามหมายเรียกและให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานตำรวจ แล้วตอนโดนทำร้ายมาเรามีการแจ้งความไว้บ้างหรือยัง หรือแถวนั้นมีกล้องวงจรปิดไหม หากมีการฟ้องร้องกันจริงก็ให้เตรียมไว้เป็นหลักฐานการสู้คดีได้ค่ะ
เดือน