บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายกับบุตรโดยชอบธรรมมีความแตกต่างกันอย่างไรครับ
บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายกับบุตรโดยชอบธรรมมีความแตกต่างกันไหม และ เรื่องความรับผิดชอบทางกฎหมายและสิทธิมีเท่ากันไหมครับ
คำตอบจากทนาย (3)
A: บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย หลัก ๆ มี 4 ประเภท คือ บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดา มี 4 ประเภท 1.บุตรของบิดามารดาที่ได้จดทะเบียนสมรสกัน 2.บุตรของบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ต่อมามีการจดทะเบียนสมรสกันในภายหลัง 3.บุตรที่บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร 4.ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ซึ่งไม่ว่าจะบุตรประเภทใน 4 ประเภทข้างต้น ถือว่ามีสิทธิในฐานะบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เช่น สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดู ส่วนในการเรียกค่าขาดไร้อุปการะ กรณีพ่อแม่ถูกทำละเมิดให้ถึงตาย เป็นต้น ส่วนบุตรโดยธรรมไม่มีในกฎหมายนะครับ มีแต่ทายาทโดยธรรม ซึ่งทายาทโดยธรรมจะมีความหมายกว้างกว่าบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะทายาทโดยธรรมจะรวมถึง พ่อ แม่ ปู่ยาตายาย ลุงป้าน้าอา ด้วยครับ
A: 1 แทบไม่มีความแตกต่างกัน และมักใช้แทนกันได้ "บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย" ของบิดาและมารดาแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม (เกิดในสมรส, รับรองบุตร, ศาลสั่ง) ส่วน บุตรโดยชอบธรรม เป็นคำที่มักจะถูกใช้ในบริบทของ กฎหมายมรดก 2 ส่วน ความรับผิดชอบทางกฎหมายและสิทธิ เท่ากันหรือไม่? คำตอบคือ เท่ากันทุกประการ
A: คำถามนี้ตอบแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมาเลยนะครับ จะได้เข้าใจเคลียร์ๆ “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” คือเด็กที่กฎหมายรับรองว่าเป็นลูก ไม่ว่าจะเกิดจากการสมรส หรือพ่อแม่ไปจดรับรองบุตรอย่างถูกต้อง เด็กกลุ่มนี้จะมีสิทธิเท่ากันทั้งหมด เช่น สิทธิใช้นามสกุล สิทธิรับมรดก สิทธิให้พ่อแม่ใช้อำนาจปกครองร่วมกัน เป็นต้น ส่วน “บุตรโดยชอบธรรม” เป็นคำที่ใช้กันในความหมายทั่วไป แต่ไม่ใช่คำจำเพาะในกฎหมายไทย เวลาเข้ากระบวนการกฎหมายสุดท้ายต้องทำให้เป็น “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” ก่อน จึงจะมีสิทธิต่างๆ ครบถ้วน สรุปเลยคือ ถ้ายังไม่ได้จดรับรองบุตร เด็กจะยังไม่ได้สิทธิเท่าเด็กที่เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องดำเนินการให้ถูกต้องก่อนนะครับ ถ้ายังกังวลว่าควรเริ่มยังไง ทักมาให้ช่วยดูขั้นตอนได้ครับ.
ทนายยอดนิยม
เดือน




