หมวด 1
บททั่วไป
-------------------------
การฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลล้มละลาย
ข้อ 26
ข้อ 26 ในระหว่างที่ศาลล้มละลายภาคยังไม่เปิดทำการในท้องที่ใด โจทก์จะยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดแห่งท้องที่ที่ความผิดเกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้น หรือจำเลยมีที่อยู่หรือถูกจับได้หรือท้องที่ที่เจ้าพนักงานทำการสอบสวนจำเลยก็ได้ ให้ศาลจังหวัดแจ้งไปยังศาลล้มละลายกลาง เมื่อศาลล้มละลายกลางรับคดีนั้นไว้แล้วจะออกไปทำการไต่สวนมูลฟ้อง นั่งพิจารณาและพิพากษาคดี ณ ศาลจังหวัดแห่งท้องที่นั้น หรือจะกำหนดให้ทำการไต่สวนมูลฟ้อง นั่งพิจารณาและพิพากษาคดี ณ ศาลล้มละลายกลางก็ได้ ตามที่ศาลล้มละลายกลางเห็นสมควร
ศาลล้มละลายกลางอาจขอให้ศาลจังหวัดแห่งท้องที่ที่โจทก์ยื่นคำฟ้องไว้หรือศาลจังหวัดอื่นใดดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ อันมิใช่เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแห่งคดีได้ตามความจำเป็นในกรณีเช่นว่านี้ ให้ศาลจังหวัดนำวิธีพิจารณาคดีล้มละลายในหมวด 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาใช้บังคับแก่การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้น
ให้ศาลจังหวัดที่โจทก์ยื่นฟ้องไว้หรือศาลจังหวัดอื่นตามวรรคสองมีอำนาจออกหมายขัง หรือปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยได้
การนำบทบัญญัติลักษณะ 1 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 27
ข้อ 27 นอกจากที่บัญญัติไว้ในลักษณะนี้ ให้นำบทบัญญัติลักษณะ 1 ความแพ่ง ว่าด้วยวิธีการติดต่อระหว่างศาล คู่ความและบุคคลที่เกี่ยวข้องตามข้อ 4 การขอให้สืบพยานหลักฐานไว้ก่อนตามข้อ 7 ถึงข้อ 9 เอกสารภาษาต่างประเทศตามข้อ 10 การบันทึกคำเบิกความของพยานตามข้อ 11 และข้อ 12 การพิจารณาลับและการห้ามโฆษณาตามข้อ 13 การทบทวนความจำของพยานตามข้อ 15 การสืบพยานบุคคลโดยระบบการประชุมทางจอภาพ หรือการประชุมทางอินเทอร์เน็ตตามข้อ 19 การรับฟังข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามข้อ 20 ถึงข้อ 23 บันทึกความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญตามข้อ 24 มาใช้บังคับแก่ความอาญาโดยอนุโลม




