คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2522

ค้นหาธรรมดา

ค้นหาคำพิพากษาฎีกาอย่างรวดเร็ว

เคล็ดลับการค้นหา: ใช้ตัวกรองเพื่อค้นหาให้แม่นยำขึ้น

พบ 1057 รายการ (106 หน้า)

ฎีกาที่ 1994/2522

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1994/2522

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 264, 292, 293

แม้ที่ดินและบ้านที่พิพาทกันในคดีก่อนจะเป็นทรัพย์ที่พิพาทกันในคดีนี้ซึ่งโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝากและขอให้ศาลพิพากษาว่าคำพิพากษาตามยอมในคดีก่อนเป็นโมฆะไม่มีผลบังคับแก่โจทก์ก็ตาม การที่จำเลยขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแก่โจทก์ในคดีก่อน ย่อมเป็นการบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมในคดีนั้น โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งงดการบังคับคดีในคดีนี้หาได้ไม่ และคำขอของโจทก์ในกรณีเช่นนี้มิใช่เป็นเรื่องการขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 3057/2522

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3057/2522

พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ม. 4, 32 พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2497 ม. 6 ประมวลกฎหมายอาญา ม. 90, 91 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 185, 215

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรากลั่นและสุราแช่กรรมหนึ่ง และฐานจำหน่ายสุราอีกกรรมหนึ่ง ศาลชั้นต้น(ศาลแขวง) ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหาจำหน่ายสุราส่วนข้อหามีสุรากลั่นและสุราแช่แยกลงโทษเป็น 2 กรรม กรรมแรกปรับ 200 บาท ส่วนกรรมหลังปรับ 600 บาท และสั่งรับอุทธรณ์ข้อเท็จจริงของจำเลยเฉพาะกรรมหลังซึ่งปรับ 600 บาทส่วนกรรมแรกไม่รับ เพราะเห็นว่าปรับไม่เกิน 500 บาท ต้องห้ามอุทธรณ์ข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะไม่รับอุทธรณ์ข้อหามีสุรากลั่น ก็ต้องถือว่าข้อหามีสุรากลั่นนั้นยังไม่ถึงที่สุด เพราะข้อหามีสุรากลั่นและมีสุราแช่รวมเป็นความผิดอยู่ในกรรมเดียวกัน เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ย่อมจะยกฟ้องโจทก์ไปถึงข้อหามีสุรากลั่นได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบด้วย มาตรา 215

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2933/2522

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2933/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 728 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ขายทอดตลาดที่ดินที่จำเลยจำนองโดยติดสิทธิที่จำเลยที่ 2 เช่าจำเลยที่ 1 ก่อน ถ้าได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองก็ให้ขายใหม่โดยปลอดสิทธิการเช่า ต่อมาจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินราคาที่เสนอไม่พอใช้หนี้จำนอง จึงงดขาย คดีล้มละลายนี้โจทก์เองเป็นผู้ฟ้องจำเลย และโจทก์ขอรับชำระหนี้จำนองนำยึดที่ดินนี้ในคดีล้มละลายโดยศาลจำหน่ายคดีที่โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง ดังนี้ การขอรับชำระหนี้จำนองในคดีล้มละลายจึงเท่ากับบังคับจำนองนั้นเอง ตรงกับข้อตกลงของโจทก์และจำเลยทั้งสอง จึงต้องขายทอดตลาดใหม่ตามยอม

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2847/2522

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 959, 989 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 94

การที่เจ้าหนี้ผู้ทรงเช็ค(โจทก์) เป็นแต่เพียงนำเช็คที่จำเลยลูกหนี้เป็นผู้สั่งจ่ายไปเข้าบัญชีของตนที่ธนาคาร ก.ก่อนเช็คถึงกำหนด 1 วัน ซึ่งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คมีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารเจ้าของเช็คเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระตามวิธีการของธนาคารนั้นเอง เมื่อธนาคาร ก. ด่วนเรียกเก็บเงินไปยังธนาคารเจ้าของเช็ค และธนาคารเจ้าของเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่าเงินในบัญชีจำเลยลูกหนี้ไม่พอจ่ายในวันเดียวกันนั้นเองนั้น เป็นเรื่องการปฏิบัติงานในระหว่างธนาคารกับธนาคาร จะถือว่าผู้ทรงเช็คใช้สิทธิไล่เบี้ยลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดหาได้ไม่ เมื่อธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คนั้น ทั้งเจ้าหนี้ผู้ทรงเช็คได้ทวงถามให้ลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายชำระเงินตามเช็คหลายครั้งแล้วลูกหนี้ผู้สั่งจ่ายก็แจ้งว่าไม่มีเงินชำระ ดังนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็ครายนี้ได้

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2837/2522

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2837/2522

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 69, 76, 366, 659

การที่โจทก์นำรถยนต์ไปจอดฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยโดยเสียค่าฝาก 10 บาทต่อวัน เป็นการฝากทรัพย์ แม้จำเลยจะได้ประกาศว่า จะไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ และลูกจ้างของโจทก์เป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นจากการรับผิด และกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยให้โจทก์เช่าสถานที่จอดรถ

นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตามเมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
หน้า จาก 106
แสดงรายการ 1 - 10 จากทั้งหมด 1057 รายการ