คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2522
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 184
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เมื่อเจ้าพนักงานไปที่บ้านจำเลยทั้งสองเพื่อตรวจค้นจับกุม จำเลยที่ 1 รับห่อเฮโรอีนจากจำเลยที่ 2 แล้วโยนทิ้งในทันทีดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำไปเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักฐานเกี่ยวกับความผิดได้ที่ตนเป็นการกระทำด้วยเจตนาเพื่อช่วยตนเองแม้จำเลยที่ 2 อาจจะได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวด้วยจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีความผิดฐานทำให้เสียหายทำลายพยานหลักฐานในการกระทำความผิดเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา184
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 140 (3), 155, 156
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวนและให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและคำร้องขัดทรัพย์ผู้ร้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ผู้ร้องมิได้อุทธรณ์เรื่องขอดำเนินคดีอนาถาภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดจึงไม่รับวินิจฉัยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ในเรื่องคำร้องขัดทรัพย์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งใหม่ว่าหากผู้ร้องประสงค์ดำเนินคดีเรื่องร้องขัดทรัพย์ให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลภายใน 15 วันหลังจากสิ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดผู้ร้องยื่นคำร้องขออนุญาตนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วันอีกศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อสิ้นกำหนดระยะเวลาที่ศาลกำหนดและกรณีไม่ใช่เหตุสุดวิสัยไม่อนุญาตผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 7 วันนับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ มิฉะนั้นให้จำหน่ายคดีดังนี้เมื่อผู้ร้องมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายในเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนดในครั้งหลังนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่มีอยู่ในศาลอันจะพึงดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ต่อไปผู้ร้องจะมาขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้ตนนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2522
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 616, 625 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 249
จำเลยใช้รถยนต์บรรทุกห้องเย็นรับจ้างขนส่งไก่สดของโจทก์ไปต่างจังหวัดปรากฏว่าไก่สดเกิดเน่าเสียเพราะเครื่องทำความเย็นของรถบรรทุกจำเลยไม่ดีพอ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
ใบส่งสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่เกิน 500 บาท แต่เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้ลงชื่อยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวทั้งไม่ได้ความจากข้อนำสืบของจำเลยว่า โจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้ง ข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 จำเลยผู้ขนส่งต้องรับผิดเต็มราคาของที่เสียหายไปจริง
จำเลยฎีกาว่า ไก่ของโจทก์มีถึง 4,000 ตัว มีมูลค่าเก้าหมื่นบาทเศษ นับว่าเป็นของมีค่าอย่างอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 620 โจทก์มิได้แจ้งราคาไก่ให้ทราบ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ความข้อนี้เมื่อจำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้กันมาในศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 703/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 23, 223, 249 พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม. 19
ศาลชั้นต้นยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา และกำหนดเวลาให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาวาง แต่จำเลยไม่วางเงินภายในกำหนด กลับอุทธรณ์ ฎีกา ครั้นศาลอุทธรณ์และฎีกาพิพากษายืน จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นขยายเวลาวางเงินศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น แต่กลับยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลอุทธรณ์ขอให้กำหนดเวลาให้จำเลยวางเงินค่าธรรมเนียมอีก คำร้องของจำเลยไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะรับไว้พิจารณา เพราะไม่มีคดีของจำเลยอยู่ในศาลอุทธรณ์ในขณะนั้น และกรณีไม่เป็นไปตามลำดับศาลดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคำร้องของจำเลยให้นั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 225, 249
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผู้รับให้บอกปัดไม่ยอมให้สั่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ผู้ให้ในเวลาที่โจทก์ยากไร้และจำเลยยังสามารถให้ได้อันเป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ จำเลยให้การเพียงว่าโจทก์มิได้อยู่ในฐานะยากจน แต่มีฐานะมั่นคงและจำเลยได้อุปการะโจทก์อยู่ด้วยดีตลอดมา ประเด็นจึงมีว่าโจทก์ยากไร้และจำเลยบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นแก่โจทก์ ทั้ง ๆ ที่จำเลยสามารถให้ได้หรือไม่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉยว่าโจทก์ไม่ใช่คนยากไร้ จะฟ้องเรียกให้ถอนคืนการให้มิได้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาโจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาว่าทรัพย์สินที่โจทก์มีเป็นที่ดินจะขายก็ไม่ทันที่จะนำมาใช้ตามความจำเป็นหาได้ไม่ เพราะมิใช่เป็นข้อที่ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 83 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497มาตรา 3 คำว่า 'ผู้ใดออกเช็ค' มิได้หมายความว่าผู้ที่จะมีความผิดคือผู้ที่ออกเช็คเท่านั้น แต่อาจจะมีผู้ที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับผู้ออกเช็ค และถือว่าเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 2 (4), 28 (2)
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132, 150, 174 (2)
ในชั้นพิจารณาคำฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์แต่โจทก์ไม่ยอมเสียอ้างว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีโจทก์อุทธรณ์และฎีกาคัดค้านในที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีไปแล้วก็เท่ากับไม่มีคดีของโจทก์อยู่ในศาลโจทก์จะมายื่นคำแถลงขอเสียค่าขึ้นศาลในคดีที่ศาลชั้นต้นได้สั่งจำหน่ายไปแล้วไม่ได้ หากประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ชอบที่จะยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่โดยกำหนดทุนทรัพย์มาในฟ้องและเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 264, 265, 268 พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2516 ม. 3, 8
ตำรวจค้นพบน้ำมันเบนซิน 1,500 ลิตร ในบ้านจำเลย จำเลยนำใบอนุญาตให้เก็บรักษาน้ำมันเบนซิน 300 ลิตร มาแสดง ตำรวจจับจำเลยมาดำเนินคดี ชั้นสอบสวนจำเลยกลับนำใบอนุญาตเก็บรักษาน้ำมันเบนซินได้ไม่เกิน 2,000 ลิตร มาแสดงอีกฉบับหนึ่ง แต่เป็นใบอนุญาตที่เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตออกให้จำเลยหลังวันจับกุมจำเลยแล้วลงวันที่ย้อนหลังไปจนถึงวันก่อนจำเลยถูกจับกุมดังนี้ เป็นการจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หาใช่การปลอมเอกสารไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
แม้ศาลจะฟังว่าเจ้าพนักงานออกใบอนุญาตเก็บรักษาน้ำมันเบนซินได้ไม่เกิน 2,000 ลิตร ให้จำเลย แต่เมื่อความผิดฐานมีน้ำมันเบนซินไว้เกินกว่าที่ได้รับอนุญาตนี้ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ว่าใบอนุญาตที่ทางการออกให้จำเลยเก็บรักษาน้ำมันเบนซินได้ไม่เกิน 2,000 ลิตร นั้นเพิ่งออกให้ภายหลังจากที่เจ้าพนักงานตรวจพบการกระทำความผิดแล้วใบอนุญาตดังกล่าวจึงหาคุ้มจำเลยให้ไม่ต้องรับผิดทางอาญาในการกระทำความผิดของจำเลยที่เกิดขึ้นก่อนออกใบอนุญาตไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 155, 156
คำร้องให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมคดีอนาถาซึ่งไม่มีเหตุที่จะชนะคดีศาลไม่ต้องไต่สวนก็ได้ การอุทธรณ์คำสั่งที่ยกคำขอต้องร้องต่อศาลอุทธรณ์ใน 7 วัน ถ้ายื่นคำร้องเกิน 7 วัน ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง คำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ฎีกาได้ ศาลฎีกาพิพากษายืน