คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 1 (11), 21, 181 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 438

ชื่อจำเลยในฟ้องตามที่โจทก์เสนอต่อศาลแต่แรกผิดเพี้ยนกับชื่อของจำเลยเพียงเล็กน้อย จำเลยได้เข้ามายื่นคำให้การในฐานะจำเลย มิได้อ้างว่าไม่ใช่จำเลยที่โจทก์ฟ้อง และโจทก์ก็มิได้คัดค้านว่าจำเลยมิใช่บุคคลที่โจทก์ฟ้องเป็นจำเลย พฤติการณ์แสดงว่าเป็นที่เข้าใจกันตลอดมาว่าจำเลยที่โจทก์ฟ้องคือบริษัท ช. จำเลยที่เข้ามาต่อสู้คดีนั่นเอง การแก้ไขชื่อจำเลยให้ตรงต่อความจริงตามที่เข้าใจกันอยู่แล้วเช่นนี้ ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 21 และมาตรา 181 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง. แม้ศาลชั้นต้นได้ยอมรับการแก้ไขโดยมิได้ฟังจำเลยก่อน และมิได้ส่งสำเนาคำร้องแก่จำเลย ก็หาถึงกับเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่

เมื่อลูกจ้างจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างเป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์เสียหาย โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลย แม้โจทก์ยังมิได้ซ่อมรถที่เสียหาย โจทก์ก็สามารถนำสืบถึงค่าซ่อมและค่าเสื่อมสภาพรถที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2523

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ประมวลรัษฎากร ม. 56

ถึงแม้ว่าหนี้ที่ขอรับชำระต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์จะเป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือหนี้ที่เป็นมูลให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตามแต่ก็ไม่มีผลผูกพันให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลจำต้องถือตาม

เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าลูกหนี้มิได้มีเจตนาซื้อและขายที่ดินและมิได้รับเงินค่าขายที่ดินไว้ลูกหนี้จึงมิใช่ผู้ประกอบการค้า ประเภทการค้า 11 การค้าอสังหาริมทรัพย์ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าและไม่มีเงินได้พึงประเมินจากการขายทรัพย์สินไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งสองประเภท ส่วนเงินได้พึงประเมินเกี่ยวกับค่าจ้างของลูกหนี้ในปี 2510 เป็นเงินประมาณ 3,000 บาทก็ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 56

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 597/2523

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีฟ้องให้ล้มละลายนั้นกฎหมายไม่ได้กำหนดวันยื่นคำให้การเหมือนคดีแพ่งธรรมดา ฉะนั้นจำเลยจะยื่นคำให้การหรือไม่ยื่นก็ได้และหากจำเลยประสงค์จะยื่นคำให้การก็มีโอกาสยื่นได้ถึง 7 วันเป็นอย่างน้อยก่อนวันนั่งพิจารณาแต่คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยไม่มาศาลในวันนั่งพิจารณาและไม่ยื่นคำให้การทั้งมิได้ร้องขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยานเพิ่งจะมาศาลภายหลังเมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว ฉะนั้นที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การจึงชอบแล้ว

จำเลยถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดี และไม่ปรากฏว่าจำเลยมีทรัพย์สินอื่นใดที่โจทก์จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้อีกจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 4 ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2523

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

การที่จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ในคดีล้มละลายซื้อที่ดินพิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปในวันเดียวกัน และปรากฏว่ามีเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นจำนวน 670,000 บาทเศษแต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินได้เพียง 20,000 บาทเศษเท่านั้นการโอนทรัพย์สินดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าจำเลยผู้ล้มละลายได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น ศาลเพิกถอนการโอนที่พิพาทรายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 9

โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้กู้และผู้เขียนสัญญากู้ลงชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยผู้กู้ได้ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ผู้ให้กู้ลงชื่อรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้กู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 183

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ยกนาพิพาทให้จำเลย จำเลยประพฤติเนรคุณจึงถอนคืนการให้จำเลยให้การรับว่าโจทก์ยกนาพิพาทให้จริง แต่ปฏิเสธว่ามิได้ประพฤติเนรคุณประเด็นข้อพิพาทจึงมีว่าจำเลยประพฤติเนรคุณอันเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิถอนคืนการให้หรือไม่ส่วนที่ว่าสัญญายกให้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้นไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2523

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์ที่ลูกหนี้ได้มาระหว่างเป็นบุคคลล้มละลายจึงเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ ตาม มาตรา109(2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่ง มาตรา 23 ให้ลูกหนี้ส่งมอบแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และ มาตรา 24 ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินเว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล การที่ลูกหนี้ได้ที่ดินพิพาทมาแล้วโอนขายให้แก่ผู้คัดค้านไปจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าวทั้งในคดีนี้มีพฤติการณ์ที่เห็นได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจขอให้ศาลเพิกถอนการโอนทรัพย์สินรายนี้ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115 โดยไม่ต้องพิจารณาว่าผู้รับโอนได้รับโอนโดยสุจริต และมีค่าตอบแทนหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2523

พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ม. 48 ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ฯ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2499

เขตควบคุมการแปรรูปไม้เป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบ

ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้แม้จะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็ตาม แต่ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงข้อกำหนดของทางราชการเท่านั้น หาใช่กฎหมายหรือเป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันทั่วไปไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1627, 1629, 1630, 1713

บุตรผู้เยาว์ทั้งสามของผู้ร้อง เป็นบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จึงถือว่าเป็นผู้สืบสันดานของผู้ตายเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 และเป็นทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกในลำดับที่ 1 ตามมาตรา1629. ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเพียงน้องร่วมบิดามารดาเดียวกับผู้ตาย ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย ตามมาตรา1630 จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามมาตรา 1713

ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ปกครองของบุตรผู้เยาว์ตามคำสั่งศาลเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงในการจัดการมรดก ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 36 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 87 (2) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 15

การขอคืนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อผู้ร้องอ้างว่าของกลางที่ถูกศาลสั่งริบเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย ก็เป็นหน้าที่ของผู้ร้องจะต้องนำสืบให้ได้ความตามที่กล่าวอ้างแม้โจทก์จะไม่ได้คัดค้านไว้ โจทก์ก็ยังมีสิทธินำพยานเข้าสืบหักล้างข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องได้ในเมื่อโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุอ้างพยานและศาลได้อนุญาตให้โจทก์นำสืบโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการระบุอ้างพยานหลักฐานแล้ว (อ้างฎีกาที่ 1263/2513)

« »
ติดต่อเราทาง LINE