คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1696

ห. ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลย และได้ทำนิติกรรมโอนทรัพย์เหล่านั้นให้จำเลยด้วย ถ้านิติกรรมการโอนสมบูรณ์ข้อกำหนดพินัยกรรมย่อมเป็นอันเพิกถอน จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นตามพินัยกรรมแต่ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามนิติกรรมนั้น ถ้านิติกรรมการโอนไม่สมบูรณ์ข้อกำหนดพินัยกรรมย่อมไม่ถูกเพิกถอน จำเลยไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามนิติกรรมนั้น แต่ก็ได้กรรมสิทธิ์ตามพินัยกรรม ดังนั้นไม่ว่านิติกรรมโอนทรัพย์สินให้จำเลยจะเป็นโมฆะหรือไม่ จำเลยก็ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์เหล่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 878

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 878/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 78, 821

การที่โจทก์ขายปุ๋ยพิพาทให้ก็โดยเชื่อว่า ธ. มีอำนาจสั่งซื้อปุ๋ยแทนจำเลยได้ตามเอกสาร และที่เคยปฏิบัติต่อกันเรื่อยมาจากการสั่งซื้อปุ๋ย 2 คราวก่อน การเปลี่ยนแปลงอำนาจของผู้ช่วยผู้จัดการของจำเลยที่ให้เป็นตัวแทน จำเลยก็มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบ ดังนี้จำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการนั้นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420

การที่จำเลยที่ 1 จ้างวานให้จำเลยอื่นเข้าทำนาในที่พิพาทโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ ถือว่าเป็นการบุกรุก จึงเป็น การละเมิดต่อโจทก์แต่จำเลยอื่นที่ไม่มีส่วนรู้เห็นในการบุกรุกด้วย หาจำต้องรับผิดด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 448 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 46, 51

อัยการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลพิพากษาว่าจำเลยยักยอกเงินค่าจ้างแรงงานแต่มิได้ยักยอกน้ำมันและยางรถยนต์ คำพิพากษานี้ผูกพันคดีแพ่งที่ผู้เสียหายฟ้องจำเลยฐานละเมิด ศาลฟังว่าจำเลยยักยอกต้องใช้เงินค่าจ้างแรงงานแก่ผู้เสียหายเท่านั้น อายุความในคดีแพ่งสะดุดหยุดอยู่ระหว่างพิจารณาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรค 2 คดีแพ่งไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 843/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 525, 1299, 1304

การอุทิศที่ดินให้ใช้เป็นทางสาธารณะ ย่อมเป็นการสละที่ดินให้เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304กรณีเช่นนี้หาจำต้องจดทะเบียนอย่างการโอนให้แก่เอกชนไม่ การที่โจทก์ซื้อที่ดินรวมทั้งที่พิพาทซึ่งเจ้าของเดิมได้อุทิศให้เป็นทางสาธารณะแล้ว แม้ที่พิพาทอยู่ในเขตโฉนดที่ดินที่โจทก์ซื้อ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะยึดถือเอาที่พิพาทเป็นของตนได้(อ้างฎีกาที่ 506/2490 และ 640/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 321 วรรคสาม, 349, 698

จำเลยที่ 3 ทำสัญญาค้ำประกันให้ไว้กับโจทก์ว่า หากเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาขายลดให้โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้จำเลยที่ 3 ยอมร่วมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ ต่อมาเช็คที่จำเลยที่ 1 นำมาขายลดให้โจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยที่ 3 ย่อมมีความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันสั่งจ่ายเช็คฉบับใหม่เพื่อชำระหนี้เงินที่โจทก์เรียกเก็บไม่ได้ จึงเป็นชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเป็นเงินหาใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ไม่ เมื่อเช็คฉบับใหม่ขึ้นเงินไม่ได้หนี้ที่จำเลยที่ 3 จะต้องรับผิดจึงยังไม่ระงับ จำเลยที่3 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1387, 1388, 1389

ทางภารจำยอมกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 60 เมตรซึ่งเจ้าของภารยทรัพย์มีเจตนาโดยชัดแจ้งที่จะให้ใช้ทางนี้เป็นทางเดินเข้าเท่านั้น และโจทก์ผู้เป็นเจ้าของสามยทรัพย์ก็รู้เจตนาดังกล่าวดีอยู่แล้ว ดังนี้ การที่โจทก์จะใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกในทางภารจำยอมอันจะต้องใช้ทางกว้างขึ้นจึงเป็นการทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ แม้ต่อมาภายหลังโจทก์จะมีรถยนต์เป็นเหตุให้ให้โจทก์มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ผ่านทางภารจำยอม โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะทำเช่นนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388 และ 1389

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1299

โจทก์ซื้อที่ดินราคา 15,000 บาท แต่ระบุจำนวนเงินในสัญญาซื้อขายเพียง 10,000 บาท โดยซื้อตามเนื้อที่ในโฉนด รู้แนวเขตคร่าว ๆ ไม่ได้ไปดูที่ดิน พฤติการณ์ดังนี้ไม่พอถือว่าโจทก์ได้ที่ดินมาโดยไม่สุจริตและไม่ได้เสียค่าตอบแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 854

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 854/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 900, 904, 916

เช็คระบุชื่อบริษัทจำเลยที่ 5 เป็นผู้รับเงิน โดยขีดฆ่าคำว่า'หรือผู้ถือ' ออก จำเลยที่ 3 ซึ่งมิได้เป็นกรรมการบริษัทแต่ได้สลักหลังเช็คนั้นและประทับตราบริษัทโดยมิได้รับมอบอำนาจ ถือไม่ได้ว่าเป็น การกระทำของบริษัทผู้ทรงเช็ค การสลักหลังดังกล่าวจึงเป็นการกระทำ โดยปราศจากอำนาจ เมื่อโจทก์ไม่สามารถแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการ สลักหลังไม่ขาดสายได้เช่นนี้ แม้โจทก์จะมีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง ให้จำเลยที่ 7 ผู้สั่งจ่ายใช้เงินตามเช็คได้

จำเลยที่ 8 ออกเช็คผู้ถือ แม้จะใช้ชื่อในบัญชีธนาคารเป็นอย่างอื่นก็ตาม แต่เมื่อได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งธนาคารให้จ่ายเงินตามเช็คแล้ว จำเลยที่ 8 ก็ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นและจะอ้างข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะตนกับจำเลยที่ 5 ว่าจำเลยออกเช็คให้เป็นการค้ำประกันต่อจำเลยที่ 5 มาใช้ยันโจทก์ผู้ทรงเช็คหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2523

พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511

เดิมกรรมการดำเนินการสหกรณ์มี 10 คน แม้ต่อมาจะเหลืออยู่ 8 คน ก็ยังประชุมดำเนินกิจการต่อไปได้เมื่อกรรมการดำเนินการที่มาประชุม 6 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ให้โจทก์ออกจากสมาชิกสหกรณ์ ถือได้ว่ามีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามตามข้อบังคับข้อ 11 มติดังกล่าวจึงชอบด้วยข้อบังคับแล้ว

« »
ติดต่อเราทาง LINE