คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2525

ค้นหาธรรมดา

ค้นหาคำพิพากษาฎีกาอย่างรวดเร็ว

เคล็ดลับการค้นหา: ใช้ตัวกรองเพื่อค้นหาให้แม่นยำขึ้น

พบ 940 รายการ (94 หน้า)

ฎีกาที่ 2570/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 47, 245 (1), 247

เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทโดยฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์คงมีแต่ผู้ร้องสอดเท่านั้นที่ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องสอดเมื่อศาลฎีกาฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องสอด และจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของผู้ร้องสอด ถือได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องสอดกับจำเลยในเรื่องที่ดินพิพาทเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็พิพากษาให้มีผลถึงจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(1),247

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 3847/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3847/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 127

หนังสือรับรองว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดของสำนักงานทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครเป็นเอกสารมหาชนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำขึ้นหรือรับรองประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของคู่ความฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารนั้นมายันต้องนำสืบความไม่บริสุทธิ์หรือความไม่ถูกต้องแห่งเอกสารนั้นหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์จึงไม่จำต้องมาเบิกความรับรองเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใดเมื่อจำเลยไม่นำสืบหักล้าง ก็ต้องถือว่าเป็นหนังสือรับรองที่แท้จริงและถูกต้องแล้วฟังได้ว่าโจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2599/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2525

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 92, 96 (3), 107 (1), 115, 151

เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้กู้ยืมเงินในฐานะเจ้าหนี้มีประกันได้ความว่าลูกหนี้ได้กู้เงินจากเจ้าหนี้โดยทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกัน โดยทำสัญญาจำนองและรับเงินกันในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลายกรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการจำนองรายนี้ตามมาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย เมื่อศาลสั่งเพิกถอนแล้ว เจ้าหนี้ยังมีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมได้ตามมาตรา 92การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอความเห็นต่อศาลชั้นต้นให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามมาตรา 107(1) นั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ไม่ชอบศาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำใหม่ให้ถูกต้องได้ตามมาตรา151

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2195/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2184 - 2195/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 224, 248 พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ม. 34

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและจำเลยร่วมออกจากที่ดิน จำเลยและจำเลยร่วมต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนจึงเป็นคดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ และจำเลยทุกสำนวนได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ คู่ความย่อมมีสิทธิ์อุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224, 248

ที่พิพาทแปลงใหญ่เป็นของวัดโจทก์ แม้ที่พิพาทบางแปลงจะมีโฉนดที่ดินมีชื่อจำเลยและจำเลยร่วมในโฉนด จำเลยและจำเลยร่วมก็หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ของวัดโจทก์ไม่ เพราะที่วัดจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ และบุคคลใดจะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับวัดในเรื่องทรัพย์สินอันเป็นที่วัดหาได้ไม่ ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 34

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 3010/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3010/2525

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 491, 653 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 249

ฎีกาโจทก์ที่ว่าสัญญาขายฝากตามฟ้องเป็นสัญญาที่ทำขึ้นอำพรางสัญญากู้เงิน จึงใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินตามเจตนาเดิมได้นั้น โจทก์มิได้ยกข้ออ้างดังกล่าวขึ้นบรรยายเป็นประเด็นไว้ในฟ้องและศาลชั้นต้นก็มิได้ตั้งประเด็นวินิจฉัยมา จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

หนังสือสัญญาขายฝากที่ดินเป็นหลักฐานในการขายฝากที่ดินหาใช่เป็นหลักฐานในการกู้ยืมไม่ โจทก์จะเอาสัญญาขายฝากมาฟ้องอ้างว่าเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่ได้

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 3007/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 86 วรรคสอง, 88 วรรคสาม, 102, 224

การขอระบุพยานเพิ่มเติมหลังจากที่คู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อนสืบไปหมดแล้วต้องมีเหตุผลแสดงว่าไม่สามารถทราบได้ว่า ตนจะต้องนำพยานหลักฐานบางอย่างมาสืบเพื่อประโยชน์ของตนหรือไม่ ทราบว่าพยานหลักฐานบางอย่างได้มีอยู่ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม เมื่อคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลยมิได้แสดงเหตุตามกฎหมายดังกล่าว ศาลไม่อนุญาตให้ระบุพยานเพิ่มเติมชอบแล้ว

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 102 เป็นเพียงบทบัญญัติที่กำหนดวิธีการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นในเมื่อศาลที่พิจารณาเห็นสมควรตามความจำเป็น

เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังไม่กลับจากต่างประเทศ ขอเลื่อนคดีโดยรับรองว่านัดหน้าจะไม่ขอเลื่อนคดีอีกไม่ว่ากรณีใด ๆ ศาลอนุญาตโดยกำชับว่า นัดหน้าไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม ศาลจะไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีต่อไป แต่เมื่อถึงวันนัดทนายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ตัวจำเลยยังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ส่งประเด็นไปสืบที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลย่อมมีอำนาจสั่งงดสืบตัวจำเลยเสียได้โดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
ฎีกาที่ 2601/2525

# คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2601/2525

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 165 (1), 165 วรรคท้าย

บริษัท ท. มีวัตถุประสงค์ขายวัตถุดิบจำพวก หิน ดินและทรายที่นำไปใช้ในกิจการอุตสาหกรรมผลิตกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องดินเผา ส่วนบริษัทจำเลยประกอบกิจการผลิตกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องดินเผา หนี้ค่าสินค้าที่บริษัทท. ขายให้แก่บริษัทจำเลยซึ่งโจทก์ได้รับโอนสิทธิเรียกร้องมา คือ หิน ดิน และทรายที่บริษัทจำเลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทจำเลยเอง ดังนั้น สิทธิเรียกร้องในค่าสินค้าดังกล่าวจึงมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165วรรคท้าย

คลิกเพื่ออ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม
หน้า จาก 94
แสดงรายการ 1 - 10 จากทั้งหมด 940 รายการ