คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2522
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2522
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490
จำเลยนำอาวุธปืนและกระสุนปืนไปขอรับอนุญาตต่อนายทะเบียนเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แล้ว แต่จำเลยยังมิได้ไปขอรับใบอนุญาตจากนายทะเบียน การขอรับใบอนุญาต พระราชบัญญัติไม่ได้กำหนดเวลาเท่าใดไว้ จึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 1 (7), 188
โจทก์ร่วมเป็นภริยาจำเลยได้ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูและขอให้เปิดประตูบ้านที่โจทก์ร่วมอาศัยอยู่ การที่โจทก์ร่วมได้ให้ช่างภาพถ่ายภาพห้อง เครื่องใช้ตู้เสื้อผ้า และของอื่น ๆ ภายในบ้านนั้น เห็นได้ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจำลองของห้อง เครื่องใช้ ฯลฯ เท่านั้นไม่ได้แสดงความหมายให้ปรากฏแต่อย่างใด ห้อง เครื่องใช้ฯลฯ มีสภาพเป็นอยู่อย่างไร เมื่อถ่ายเป็นภาพออกมาก็ปรากฏอยู่ในสภาพอย่างนั้น ไม่เป็นหลักฐานแห่งความหมายอย่างใด ๆ เลย ภาพถ่ายและฟิล์มของภาพถ่ายดังกล่าวจึงไม่เป็นเอกสารตามมาตรา 1(7) แห่งประมวลกฎหมายอาญาฉะนั้น การที่ร้านถ่ายภาพได้นำภาพถ่ายไปมอบให้โจทก์ร่วมที่บ้านซึ่งถ่ายภาพ จำเลยเป็นผู้รับไว้ และให้คนไปเอาฟิล์มภาพถ่ายจากร้านแล้วเอาไปเสียไม่ยอมคืนให้โจทก์ร่วมดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1205/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 218, 222
คดีมีปัญหาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้นหากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวนศาลฎีกาไม่ต้องถือตาม และวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงใหม่กลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 46
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุก ขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทตลอดจนชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นั้น เมื่อคำพิพากษาส่วนอาญาศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้เป็นที่ยุติแล้วว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ ดังนี้ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาก็จำต้องถือตาม จะฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่(อ้างฎีกาที่ 1172/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 192
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเรียกเงินจากผู้เสียหายโดยทุจริต มิได้ฟ้องว่าจำเลยไม่คืนไม้ที่จับไว้จากผู้เสียหายศาลไม่ฟังว่าจำเลยเรียกเงิน จึงลงโทษจำเลยเพราะไม่คืนไม้เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 91 พระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ.2477
ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีน กัญชา และบ้องกัญชาเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดฯ พ.ศ.2465 มาตรา 20 ทวิฉบับที่ 4 พ.ศ.2504 มาตรา 6 กระทงหนึ่ง ผิดตาม พระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ.2477 มาตรา 102 กระทง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 90 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 39 (4)
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงไว้ก่อนในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ คดีอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้องอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 3 (อัยการจังหวัดนครราชสีมา) ฟ้องจำเลยในมูลกรณีเดียวกันต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 3(ศาลจังหวัดนครราชสีมา) ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อนว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด คดีถึงที่สุดแล้วดังนี้ เห็นว่า การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านอันเป็นเคหสถานและฆ่าสุกรของโจทก์นั้น เป็นการกระทำที่ประสงค์ต่อผลในการลักสุกรหรือฆ่าสุกรการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อปรากฏว่าจำเลยถูกฟ้องเกี่ยวกับการกระทำครั้งเดียวกันนี้ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ และศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว แม้โจทก์จะได้ยื่นฟ้องคดีไว้ก่อนคดีดังกล่าวก็ตาม แต่คดีที่อัยการฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อนสิทธิของโจทก์ที่ได้ฟ้องไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 156/2522
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 306 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 55
โจทก์อ้างว่ารับโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ มีแต่แบบพิมพ์การโอนซึ่งผู้เช่าซื้อลงลายมือชื่อไว้โดยไม่กรอกข้อความโจทก์ไม่ใช่เจ้าของและไม่ใช่ผู้เช่าซื้อ ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายเพราะรถยนต์ถูกชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2522
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 170 วรรคหนึ่ง, 193 วรรคหนึ่ง, 193 ทวิ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ทวิ นำมาปรับแก่คดีซึ่งอยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้องดังนี้ ห้ามมิให้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2522
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 326, 329
ฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ร่วมมีข้อโต้แย้งกันเรื่องแนวเขตรั้วที่จำเลยจะสร้างขึ้นใหม่ ขณะเจรจายังไม่ตกลงกันจำเลยได้กล่าวถ้อยคำต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจผู้มาทำการไกล่เกลี่ยว่าที่ต้องสร้างรั้วใหม่ เพราะไอ้คนนี้ (หมายถึงโจทก์ร่วม) มันเข้าไปข่มขืนคนในบ้านฉัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงเลยมาเป็นเวลานาน 2 ปีเศษแล้วดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 329