คำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 127

ทำสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะเกรงว่าจะถูกฟ้องเสียชื่อเสียงขาดความไว้วางใจ เป็นการเนื่องมาจากการใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมตามปกติ ไม่เป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 264

ฟ้องขอหย่าและแบ่งที่ดินสินสมรสและห้องแถว มิได้ขอบังคับ ค่าเช่าคำขอให้กำหนดวิธีการชั่วคราวให้นำเงินค่าเช่ามาวางศาล จึงไม่ใช่กรณีที่จะบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374 - 375/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 130, 728, 856

ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี 300,000 บาท กำหนดชำระภายใน 6 เดือนเป็นเรื่องของสัญญาบัญชีเดินสะพัด ลูกหนี้เบิกเงินเกิน 300,000 บาท และเกินเวลา 6 เดือน ก็ยังคงให้บัญชีเดินสะพัดเดินอยู่ต่อไป ยังไม่ผิดนัดจนกว่าจะหักทอนบัญชีเรียกให้ชำระเงินคงเหลือต้องเสียดอกเบี้ยทบต้นทุกเดือน

หนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองส่งทางไปรษณีย์ถึงผู้จำนอง ณ ภูมิลำเนาแต่ผู้รับไม่ยอมรับ แสดงว่ามีผู้รับแต่ไม่ยอมรับแทน เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับคำบอกกล่าวโฆษณาทางหนังสือพิมพ์จะแพร่หลายหรือไม่ไม่สำคัญ ถือเป็นการมีจดหมายบอกกล่าวบังคับจำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 119, 193, 195, 216

นายประกันขอผลัดส่งตัวผู้ต้องหาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายนายประกันขอผลัดส่งตัวผู้ต้องหาอีก ศาลชั้นต้นสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันเท่ากับศาลไม่อนุญาตให้นายประกันผลัดส่งตัวผู้ต้องหาไปในตัว นายประกันอุทธรณ์และฎีกาว่าหลักประกันที่ยื่นต่อศาลเป็นการเพียงพอ มิได้ประวิงคดีและไม่ทำให้เสียรูปคดี ขอให้ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาให้โอกาสแก่นายประกันติดตามตัวผู้ต้องหาอีกระยะหนึ่ง อุทธรณ์และฎีกาดังกล่าวเพียงแสดงความประสงค์จะขอผลัดการส่งตัวผู้ต้องหาต่อศาลอุทธรณ์ฎีกาเท่านั้น มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันว่าไม่สมควร หรือไม่ถูกต้องแต่อย่างใด ศาลฎีกาจึงไม่รับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 199, 226

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ขออนุญาตยื่นคำให้การ เพราะมิได้จงใจขาดนัด แล้วดำเนินการพิจารณาคดีต่อไป จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งก่อนที่ศาลได้มีคำพิพากษา จึงต้องห้ามอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 354, 1364

บันทึกข้อตกลงมีรายละเอียดเกี่ยวกับการแบ่งเขตที่พิพาทระหว่างเจ้าของรวมซึ่งสามารถรังวัดแบ่งและกำหนดเขตได้แน่นอน จึงเป็นการสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 วรรคแรก บังคับให้แบ่งกันตามนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 674, 675, 821, 822

จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างทำงานในโรงแรมที่จำเลยที่ 2 และที่ 7 เป็นหุ้นส่วน โรงแรมดังกล่าวมีบริการผู้มาพักโดยรับฝากเช็คจากผู้มาพักแล้วนำไปซื้อดราฟท์ส่งให้ผู้ทรงเช็คที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ในการนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 7 ยอมให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับฝากเช็คของผู้มาพักโดยออกใบรับเช็คให้ ตามพฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 2 ที่ 7 เมื่อปรากฏว่าเช็คของโจทก์ที่จำเลยที่ 1 รับฝากไว้เกิดสูญหายไป ทำให้โจทก์สูญเสียเงินตามเช็คเพราะธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้อื่นไป จำเลยที่ 2 ที่ 7 จะยกข้ออ้างว่า ตนให้อำนาจจำเลยที่ 1 รับฝากเช็คได้ไม่ถึงจำนวนเงินตามเช็คของโจทก์ขึ้นโต้เถียงกับโจทก์หาได้ไม่ จำเลยที่ 2 ที่ 7 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินตามเช็คที่รับฝากไว้นั้นแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2523

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 148 ประมวลรัษฎากร ม. 2, 18

จำเลยเป็นข้าราชการมีตำแหน่งเป็นสมุห์บัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 2 คำว่า "อำเภอ" หมายความว่านายอำเภอหรือสมุห์บัญชีอำเภอและหมายความรวมถึงผู้ทำการแทนจำเลยมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรมีคำสั่งให้สมุห์บัญชีอำเภอมีอำนาจทำการตรวจสอบภาษีอากรโดยให้รายงานขออนุมัติสรรพากรจังหวัดก่อนทำการตรวจสอบฉะนั้นจำเลยจึงมีอำนาจในการตรวจสอบภาษีอากรโดยอาศัยคำสั่งอธิบดีกรมสรรพากรประกอบกับประมวลรัษฎากร การรายงานขออนุมัติเป็นเพียงระเบียบปฏิบัติภายใน การที่จำเลยไม่รายงานขออนุมัติหาใช่ว่าจำเลยจะไม่มีอำนาจตรวจสอบภาษีอากรไม่ การที่จำเลยไปเรียกตรวจสอบบัญชีภาษีเงินได้และภาษีการค้าจากผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายมิได้จัดทำบัญชีไว้ จำเลยก็ขู่เข็ญข่มขืนใจเรียกเอาเงินจากผู้เสียหาย ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 198

ผู้ร้องขัดทรัพย์ต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัด ถ้าผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นออกเสียจากสารบบความ ผู้ร้องจะอ้างว่ามิได้มีเจตนาทิ้งคำร้อง เพราะผู้ร้องได้รับหมายนัดสืบพยาน ผู้ร้องจึงเข้าใจว่า โจทก์ยื่นคำให้การแล้วนั้นไม่ได้ เพราะการที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำให้การต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 338/2523

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 46

โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกเข้ามาทำความเสียหายในที่ดินของโจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก กับพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เมื่อศาลพิพากษาในคดีส่วนอาญาถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทและลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาจำเลยจะฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทหาได้ไม่

« »
ติดต่อเราทาง LINE