
เป็น Influencer ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

ปัจจุบันเป็นยุคเฟื่องฟูของ Social Media ทำให้อาชีพ Influencer กลายเป็นอาชีพยอดนิยมในหมู่คนไทยเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใคร อายุเท่าไหร่ หรืออยู่ที่ไหนก็สามารถเริ่มต้นอาชีพนี้ได้ ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทยมี Influencer อยู่แทบทุกวงการเลยทีเดียว สาเหตุสำคัญก็เพราะอาชีพนี้เริ่มต้นง่าย อิสระ และหากมีคนติดตามชื่นชอบมากก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้อย่างงาม นอกจากนี้การเติบโตของเทคโนโลยียังส่งเสริมให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์ออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ในการทำมาหากินบนโลกดิจิทัล
แต่แน่นอนว่าเมื่อมีรายได้อยู่ที่ไหน ก็ต้องมีภาษีเป็นเหมือนเงาตามตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีเงินได้ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ บทความนี้จึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้วอาชีพ Influencer นั้นต้องเสียภาษีอะไรยังไงเท่าไหร่กันบ้าง ? เพื่อให้เราสามารถเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง และหมดกังวลเรื่องความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบและประเมินภาษีในอนาคตค่ะ
ภาษีที่เกี่ยวข้องกับ Influencer
อาชีพ Influencer นับเป็นอาชีพที่มีช่องทางในการสร้างรายได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรับงานรีวิวสินค้า ค่าโฆษณา รายได้จากการเป็นนายหน้าปักลิงก์หรือปักตะกร้าเพื่อรับส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่น รวมถึงรายได้จากการไปโชว์ตัวตามอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งรายได้จากการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ ของตนเองออกมาขายผ่านช่องทาง Social Media โดยช่องทางรายได้ที่หลากหลายเหล่านี้ ทำให้ Influencer มี “รายได้หลายรูปแบบ หลายลักษณะ และหลายทาง” ซึ่งทั้งหมดล้วนถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามกฎหมายภาษี ที่ควรจัดการให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นค่ะ
และเมื่อรายได้เกิดขึ้น ภาษีที่ต้องคำนึงถึงหลัก ๆ เลยก็คือ “ภาษีเงินได้” ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล อีกทั้งหากงานที่ทำให้เกิดรายได้เหล่านั้นเป็นงานขาย หรือเป็นการให้บริการก็จะมี “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเองค่ะ
ซึ่งเหล่า Influencer จะมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอะไรยังไง เท่าไหร่ และมีวิธีการคิดคำนวณภาษีแต่ละประเภทแบบไหนบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณประกอบการในฐานะอะไรค่ะ กล่าวคือ คุณประกอบการในฐานะบุคคลธรรมดา หรือมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือนิติบุคคล ซึ่งจะส่งผลให้การคิดและคำนวณภาษีนั้นมีความแตกต่างกันในรายละเอียดดังต่อไปนี้
⭐️ ปรึกษาทนายเบื้องต้นฟรี ง่ายๆผ่านทาง Free Q&A โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวต
กรณี Influencer ประกอบการในฐานะ “บุคคลธรรมดา”

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หากว่าการทำงานของ Influencer เป็นการทำงานและรับเงินในฐานะบุคคลธรรมดา การเสียภาษีเงินได้นั้นก็จะต้องเสีย “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ซึ่งเป็นภาษีที่มีวิธีการคำนวณแบบแยกประเภทเงินได้ หมายความว่า แม้เราจะกล่าวเปิดหัวข้อกันมาว่าบทความนี้จะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง “ภาษี Influencer” แต่อย่างไรก็ดี ตามหลักเกณฑ์ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ในแง่มุมของกฎหมายไม่ได้สนใจว่าเราจะทำอาชีพอะไร แต่กฎหมายสนใจแค่ว่า ‘เรามีรายได้อะไร’ หรือกล่าวง่าย ๆ ว่า กฎหมายจะดูแค่ว่ารายได้ที่เราได้รับมานั้นมาจากการทำงานอะไรนั่นเอง
เพราะตามหลักเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รายได้แต่ละประเภทจะมีวิธีการเสียภาษีแตกต่างกัน เนื่องจากมี ‘วิธีการหักค่าใช้จ่าย’ ที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง ดังนั้น เราในฐานะผู้มีรายได้ เราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ ประเภทของเงินได้พึงประเมิน เสียก่อน เพื่อให้สามารถแยกแยะประเภทของรายได้ที่เราได้รับได้อย่างถูกต้องค่ะ
โดยประเภทของเงินได้ตามกฎหมายภาษีอากรแบ่งออกเป็น 8 ประเภท ตามมาตรา40 (1)-(8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีรายละเอียด วิธีการคำนวณ และอัตราการหักค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป หากใครอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่านได้จากบทความ "อยากยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเอง เริ่มยังไงดี?" ได้เลยนะคะ อย่างไรก็ตามเพื่อให้บทความนี้กระชับและเข้าใจง่าย เราจะขอกล่าวถึงเฉพาะประเภทของรายได้หลัก ๆ ที่ผู้ประกอบอาชีพ Influencer มักจะพบเจอกันบ่อยที่สุดค่ะ
รายได้หลักของอาชีพ Influencer
อย่างที่เรารู้กันดีว่า Influencer นั้นไม่ใช่อาชีพที่มีรายได้ทางใดทางหนึ่งแบบเจาะจง อินฟลูฯ คนนึงอาจรับงานเป็นสิบเป็นร้อยงานในแต่ละปี ซึ่งแต่ละงานก็อาจมีรูปแบบการจ้าง หรือรูปแบบการทำงาน รวมถึงสัญญาต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้กับผู้ว่าจ้าง เช่น บางงานอาจเป็นการจ้างให้รีวิวสินค้าผ่านการทำคลิปวิดิโอ บางงานอาจะเป็นการจ้างให้ไปออกงานโชว์ตัวตามสถานที่หรืออีเว้นท์ต่าง ๆ ฯ เป็นต้น
ดังนั้น จึงอยากมาชวนดู และแยกประเภทกันก่อนว่า Influencer นั้นมีแหล่งรายได้หลัก ๆ มาจากอะไรกันบ้าง และรายได้แต่ละอย่างนั้นในทางกฎหมายภาษีถือเป็นเงินได้ประเภทอะไร มีวิธีการ ทางเลือก และอัตราการหักค่าใช้จ่ายอย่างไรกันบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้ทำการสรุปแบบกระชับและเข้าใจง่ายไว้ให้ตามตารางด้านล่างนี้แล้วค่ะ

หมายเหตุท้ายตาราง: เงินได้ตามมาตรา 40 (1) กล่าวคือ เงินเดือนจากงานประจำและ 40(2) นั้น หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 50% แต่หักได้รวมกันสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท[1]
💬 อ่านกระทู้คำตอบจากทนาย (Q&A)
การหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาสามารถหักได้เลย เพราะถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่การหักค่าใช้จ่ายตามจริงจะต้องมีหลักฐานประกอบที่ยอมรับได้ และสามารถชี้แจ้งได้หากมีการขอตรวจสอบจากกรมสรรพากร
ซึ่งรายได้ที่ได้รับมาทั้งหมดไม่ว่าจากช่องทางใด ก็จะต้องนำมารวมเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยในการคำนวณก็จะต้องแยกประเภทรายได้ให้ถูกต้อง เพราะรายได้แต่ละประเภทมีวิธีการหักค่าใช้จ่ายที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากแยกประเภทผิดตั้งแต่ขั้นตอนนี้จะส่งผลให้เราคำนวณภาษีผิดไปด้วยนั่นเองค่ะ
เกณฑ์ที่ใช้ในการยื่น และ วิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ในกรณีของอาชีพ Influencer นั้น รายได้ที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการรับจ้าง การขายสินค้า หรือการให้บริการต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่เงินเดือนจากสัญญาจ้างแรงงานเหมือนอย่างพนักงานบริษัททั่วไป ดังนั้นจึงมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำในการยื่นภาษีที่ไม่เหมือนกันค่ะ โดยอินฟลูเอนเซอร์จะมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีหรือไม่นั้นต้องใช้เกณฑ์พิจารณา ดังต่อไปนี้ค่ะ[2]
สถานะ | จำนวนรายได้ขั้นต่ำ |
กรณีเป็นคนโสด (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) | เกินกว่า 60,000 บาท/ปี |
กรณีมีคู่สมรส (และคู่สมรสไม่มีรายได้) | เกินกว่า 120,000 บาท/ปี |
กล่าวคือ หากอินฟลูฯ คนใดมีสถานะ และมีรายได้เกินกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ดังตารางข้างต้นนี้ ก็มีหน้าที่จะต้อง “ยื่น” แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ให้แก่กรมสรรพากร แต่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ หรือต้องเสียในจำนวนเท่าไหร่นั้น ต้องไปคำนวณภาษีในรายละเอียดกันอีกทีค่ะ
โดยในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ให้คำนวณโดยใช้ ‘วิธีเงินได้สุทธิ’ ก่อนกล่าวคือ นำ “รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ” แล้วนำ เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันไดตามฐานเงินได้ (5-35%) [3] = จำนวนภาษีที่ต้องเสีย
และหากว่าในปีภาษีดังกล่าวอินฟลูฯ คนใด มีรายได้ตลอดทั้งปีรวมกันเกินกว่า 120,000 บาทต่อปี กรณีนี้จะต้องทำการคำนวณภาษีวิธีหนึ่งด้วย ซึ่งคำนวณโดยการนำ “รายได้รวมทั้งหมด x 0.005% = จำนวนภาษีที่ต้องเสีย” [4]
เมื่อคำนวณทั้ง 2 วิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำจำนวนภาษีที่ต้องเสียในแต่ละวิธีการที่คำนวณได้มาเปรียบเทียบกัน หากการคำนวณวิธีไหนทำให้เสียภาษี มากกว่า ก็ให้คำนวณและเสียภาษีตามวิธีการนั้น
กำหนดเวลายื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับกรณีอาชีพ Influencer ซึ่งมีรายได้หลากหลายประเภทนั้น นอกจากจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบภาษีสิ้นปีตามปกติแล้ว กฎหมายยังกำหนดให้มีหน้าที่ต้องทำการยื่น ‘ภาษีครึ่งปี’ อีกด้วย ซึ่งในการยื่นแบบมีหลักเกณฑ์และกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้
- กรณีภาษีเงินได้ครึ่งปี: ต้องนำเงินได้ประเภทที่ 5 – 8 กล่าวคือ เงินได้ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 40 (5)-(8) อาทิเช่น เงินได้จากการทำธุรกิจ เช่น การขายสินค้า หรือขายคอร์สให้คำปรึกษาต่าง ๆ ที่ได้รับมาตั้งแต่มกราคม – มิถุนายน ของปีนั้น มารวมคำนวณภาษีครั้งปี ซึ่งในการยื่นภาษีดังกล่าวจะยื่นโดยใช้แบบ ภ.ง.ด.94 และสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนของปีภาษีนั้น ๆ[5]
- กรณีภาษีเงินได้สิ้นปี: ต้องนำเงินได้พึงประเมินทั้งหมดทุกประเภทที่เกิดขึ้นและได้รับมาในปีนั้น ๆ ตั้งแต่มกราคม - ธันวาคม มารวมและคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี เมื่อคำนวณแล้วได้จำนวนภาษีที่ต้องเสียเท่าไหร่ ให้นำภาษีครึ่งปีที่เสียเคยเสียไปมาเป็นเครดิตหักออกจากภาษีที่คำนวณได้ ซึ่งในการยื่นภาษีสิ้นปีนี้จะยื่นโดยใช้แบบ ภ.ง.ด.90 และสามารถยื่นได้ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคมของปีถัดไป[6]
อย่างไรก็ตามทั้งการยื่นแบบภาษีครึ่งปี และภาษีสิ้นปีนั้น หากเป็นการยื่นแบบผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ระยะเวลาการยื่นจะขยายออกไปจากกำหนดเวลาดังกล่าวอีก 8 วันค่ะ ดังนั้น ถ้ายื่นแบบกระดาษไม่ทันในช่วงเวลาข้างต้น ก็สามารถมายื่นผ่านระบบออนไลน์ได้อีก 8 วันนั่นเองค่ะ[7]
💬 อ่านกระทู้คำตอบจากทนาย (Q&A)
- Q: ทำธุรกิจขายของออนไลน์กับแพลตฟอร์ม TikTok ช็อป ในการถอนเงินต้องเสียภาษีหรือเปล่า
- Q: ยื่นภาษีและการขายของออนไลน์
กรณี Influencer ประกอบการในฐานะ “นิติบุคคล”

ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เมื่ออาชีพ Influencer มีแนวโน้มว่าจะทำรายได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในทำงานจำเป็นต้องมีทีมงาน หรือทีมหลังบ้านค่อยช่วยทำหน้าที่ต่าง ๆ ให้ เช่นนี้ Influencer หลายคนจึงเลือกที่จะไปจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท และประกอบการหรือรับเงินในฐานะนิติบุคคล ซึ่งหมายความว่า ภาระภาษีก็จะมีความเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของภาษีเงินได้ ซึ่งจะเปลี่ยนจากการใช้ระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปเป็น “ระบบภาษีเงินได้นิติบุคคล” แทน ซึ่งเป็นระบบภาษีที่มีความแตกต่างกันทั้งในรายละเอียด วิธีการคำนวณ และสิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่พอสมควรเลยค่ะ
โดยสำหรับ Influencer ที่จดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจะค่อนข้างมีความง่ายมากกว่ากรณีของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะระบบภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้นไม่มีการแยกประเภทของเงินได้เหมือนอย่างกรณีของบุคคลธรรมดา เนื่องจากภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่มีการใช้วิธีการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมานั่นเองค่ะ
ซึ่งหมายความว่า ในการหักค่าใช้จ่ายนั้น บริษัทจะต้องหักตามความเป็นจริง กล่าวคือ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่จะสามารถนำมาหักได้ต้องเกิดขึ้นจริง ต้องมีการจ่ายออกไปเพื่อการประกอบกิจการจริง และต้องมีหลักฐานการจ่ายที่เชื่อถือได้นั่นเอง และหากปรากฎว่ารายจ่ายรายการใดไม่มีที่มาหรือหลักฐาน หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการจ่ายไปเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการ รายจ่ายรายการนั้นก็จะถือเป็น “รายจ่ายต้องห้าม” ไม่สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้[8] ดังนั้น ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นระบบที่ง่ายกว่า แต่ก็เข้มงวดกว่านั่นเองค่ะ
⚖️ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: ประมวลรัษฎากร
วิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
ภาษีเงินได้นิติบุคคลคำนวณจากการนำ
“รายได้ - รายจ่าย = กำไรทางบัญชี”
กำไรทางบัญชี -/+ การปรับปรุงรายการทางภาษีตามกฎหมาย = กำไรทางภาษี
กำไรสุทธิทางภาษี x อัตราภาษี (20%) = จำนวนภาษีที่ต้องเสีย
และอย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจะไม่มีการแยกประเภทเงินได้เหมือนอย่างกรณีของบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นผลมาจากวิธีการหักค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยวิธีการหักค่าใช้จ่ายหรือ ‘การหักรายจ่าย’ ของนิติบุคคลนั้นจะหักได้โดยวิธีเดียวคือ ‘หักตามความเป็นจริง’ และต้องเป็นรายจ่ายที่มีพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายออกไปเพื่อการดำเนินงานของบริษัทจริง
ดังนั้น นิติบุคคลจึงมีหน้าที่ต้องจัดทำ ‘บัญชีทางภาษีอากร’ ด้วย ซึ่งเป็นบัญชีที่แยกต่างหากจากบัญชีการเงินของบริษัท เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณภาษีนั่นเอง โดยในการจัดทำบัญชีนั้นก็จะต้องจัดทำตามมาตราฐานบัญชี โดยใช้เกณฑ์การปรับปรุงรายการรายได้และรายจ่ายตามประมวลรัษฎากรนั่นเองค่ะ
กำหนดเวลายื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งเรียกว่า “ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี” และ “ภาษีสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี” โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้
1. ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี: ต้องยื่นแบบโดยการนำ “กึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิของรอบระยะเวลาบัญชี”[9] มาคำนวณภาษี กล่าวคือ เมื่อกิจการดำเนินการมาถึงครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (6 เดือน) กิจการก็มีหน้าที่ต้องประมาณการว่าในปีนั้น ๆ กิจการจะสามารถทำกำไรได้เท่าไหร่ และนำครึ่งหนึ่งของจำนวนกำไรที่ประมาณการไว้นั้นมาคำนวณภาษีครึ่งรอบฯ และยื่นภาษีครั้งรอบฯ โดยใช้แบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน2 เดือนนับแต่สิ้น 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี[10]
ตัวอย่างเช่น หากบริษัทหรือนิติบุคคลใดใช้รอบระยะเวลาบัญชีเป็นวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม ภาษีครั้งรอบฯ ต้องยื่นภายใน 2 เดือนนับแต่สิ้นเดือนมิถุนายน หรือภายในเดือนสิงหาคมนั่นเอง
2. ภาษสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี: ต้องยื่นแบบโดยการนำ “กำไรสุทธิ” ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชี กล่าวคือ 12 เดือน มารวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ได้จำนวนภาษีที่ต้องเสียเท่าไหร่ให้นำมาภาษีครึ่งรอบที่ได้เสียไว้มาเครดิตหักออก และเสียภาษีตามจำนวนที่เหลือนั้น[11] โดยยื่นผ่านแบบ ภ.ง.ด.50ภายใน 150 วันนับแต่วัดสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
ตัวอย่างเช่น หากบริษัทหรือนิติบุคคลใดใช้รอบระยะเวลาบัญชีเป็นวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม ภาษีสิ้นรอบฯ ต้องยื่นภายในวันที่ 30 พฤษภาคม ของปีถัดไปนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตามทั้งการยื่นแบบภาษีครึ่งรอบฯ และภาษีสิ้นรอบฯนั้น หากเป็นการยื่นแบบผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ระยะเวลาการยื่นจะขยายออกไปจากกำหนดเวลาดังกล่าวอีก 8 วันเช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้น ถ้ายื่นแบบกระดาษไม่ทันในช่วงเวลาข้างต้น ก็สามารถมายื่นผ่านระบบออนไลน์ได้ค่ะ
📖 อ่านบทความกฎหมายที่เกี่ยวข้อง: ภาษีบริษัท ที่ผู้เปิดบริษัทเองควรรู้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ในกรณีที่บุคคลธรรมดาประกอบอาชีพ Influencer โดยมีรายได้จากการขายสินค้าหรือการให้บริการต่าง ๆ นั้น มักเกิดการเข้าใจผิดว่าถ้าประกอบการในฐานะบุคคลธรรมดาไม่ได้จดบริษัท จะไม่มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
เพราะตามกฎหมายแล้วไม่ว่าเราจะประกอบการหรือรับเงินในฐานะบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตาม หากว่าการประกอบกิจการนั้นมีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เราก็มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
และเมื่อ Influencer รายใดจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วก็จะมีสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ เหมือนอย่างเช่นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ในการออกใบกำกับภาษี, สิทธิในการนำภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขาย, หน้าที่ในการจัดทำรายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย หรือรายงานสินค้าและวัตถุดิบคงเหลือ (ในกรณีที่ประกอบการขายสินค้า) อีกทั้งยังต้องนำส่งยอดภาษีมูลค่าเพิ่มทุก ๆ เดือน ซึ่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง “ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร ทำไมต้องจ่าย แล้วจำเป็นต้องจด VAT ไหม?” บนเว็บไซต์ของ Legardy นะคะ
ส่งท้าย
กล่าวโดยสรุปได้ว่า Influencer นั้นก็เป็นอาชีพที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเหมือนอย่างอาชีพทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างและมักทำให้เกิดความสับสนคือ ลักษณะการทำงาน และแหล่งรายได้ของเหล่า Influencer นั้นมีหลากหลาย ทำให้ในการคิดคำนวณภาษีนั้นมีสิ่งที่ต้องทราบและทำความเข้าใจมากกว่าอาชีพอื่น ๆ ทั้งกรณีของภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งพออ่านมาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจรู้สึกว่าค่อนข้างยากและซับซ้อน
แต่อย่างไรก็ดีหากเราต้องการจะยึดอาชีพ Influencer เป็นช่องทางทำมาหาได้หลักของเรา การสละเวลาเพื่อทำความเข้าใจเรื่องภาระภาษีอาจจะทำให้เส้นทางสายอาชีพของเราราบรื่น ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลาในการโต้เถียงหรือความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาทกับกรมสรรพากร ซึ่งบอกเลยว่าอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้น ไม่ว่าน้อง ๆ Influencer จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือมีชื่อเสียงแล้วก็ตาม อย่าลืมจัดการเรื่องภาษีให้เรียบร้อย เก็บหลักฐานรายรับ-รายจ่ายไว้เสมอ และยื่นแบบภาษีภายในกำหนดเวลา เพราะสุดท้ายแล้ว “การเสียภาษีอย่างถูกต้อง” คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของความมืออาชีพในสายอาชีพนี้ค่ะ
📢 หากคุณกำลังมองหา คำแนะนำในการยื่นภาษีอย่างถูกต้อง หรือต้องการปรึกษาปัญหากฎหมายอื่นๆ ติดต่อทนายมืออาชีพ ผ่านเว็บไซต์ได้เลย
📖 อ่านบทความกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ซื้อหุ้นสหรัฐ-หุ้นต่างประเทศแล้วได้กำไร เมื่อไหร่ที่ต้องเสียภาษีในไทย?
- ทุกอย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย รวมถึงฟอร์มแนะนำ ข้อควรระวัง
[1] ประมวลรัษฎากร, มาตรา 42 ทวิ. [2] ประมวลรัษฎากร, มาตรา 56.
[3] ประมวลรัษฎากร, มาตรา 48 (1). [4] ประมวลรัษฎากร, มาตรา 48 (2).
[5] กรมสรรพากร, กำหนดเวลายื่นแบบ: ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไร และเมื่อใด? <https://www.rd.go.th/558.html>.
[6] กรมสรรพากร, กำหนดเวลายื่นแบบ: ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างไร และเมื่อใด? <https://www.rd.go.th/558.html>.
[7] กรมสรรพากร, เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี <https://www.rd.go.th/46202.html>.
[8] ประมวลรัษฎากร, มาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี.
[9] กรมสรรพากร, ทำความรู้จักภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ก่อนยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.51 ปีนี้
< https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/press_release/2023/07/PND51-66-new-ver.pdf>.
[10] กรมสรรพากร, ทำความรู้จักภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ก่อนยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.51 ปีนี้
< https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/press_release/2023/07/PND51-66-new-ver.pdf>.
[11] ประมวลรัษฎากร,มาตรา
ปรึกษาทนายตัวจริง
สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว
สมัครเป็นทนายออนไลน์
แพล็ทฟอร์มรวบรวม
งานกฎหมายจากทั่วประเทศ








